วันนี้ (8 กันยายน) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดา ผู้สื่อข่าวไทยแทบลอยด์ รายงานว่า น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดปทุมธานี เขต 3 พรรคประชาชน เดินทางมายังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.595/2565 ในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากกรณีการปราศรัย โดย น.ส.ชลธิชา เดินทางมาถึงศาลในเวลา 09.19 น. ท่ามกลางกำลังใจจากกลุ่มผู้ติดตามและเพื่อน สส. พรรคประชาชน เช่น นายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี, น.ส. กัลยพัชร รจิตโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงนายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล
ก่อนเข้าห้องพิจารณาคดี น.ส.ชลธิชา เปิดเผยว่า ตนเองไม่กังวลในทางคดี เนื่องจากได้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ในการสืบพยาน โดยมีการรวบรวมข้อเท็จจริง เหตุผล และข้อกฎหมายต่างๆ มาประกอบการพิจารณา พร้อมยืนยันว่าไม่ว่าคำพิพากษาจะออกมาเป็นอย่างไรก็พร้อมรับมือ และได้เตรียมการเรื่องการประกันตัวไว้แล้ว เพราะเชื่อว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในการต่อสู้คดีในศาลชั้นอุทธรณ์และศาลฎีกาต่อไป
เมื่อถามถึงความมั่นใจในหลักฐานที่จะหักล้างข้อกล่าวหาได้หรือไม่ น.ส.ชลธิชา กล่าวว่า ตนเองค่อนข้างมั่นใจ โดยอ้างถึงคดีที่ศาลธัญบุรีซึ่งตนเองถูกตัดสินจำคุก 2 ปี แต่ยืนยันว่าทุกคำปราศรัยมีเจตนาที่บริสุทธิ์และปรารถนาดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อให้สถาบันฯ ดำรงอยู่อย่างมั่นคงในประเทศไทย ในส่วนของผลกระทบต่อตำแหน่ง สส. หากไม่ได้รับการประกันตัว น.ส.ชลธิชาระบุว่า ตนและพรรคประชาชนได้เตรียมความพร้อมสำหรับทุกกรณีไว้แล้ว เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มั่นใจได้ว่าพรรคจะมีผู้แทนคอยดูแลอย่างเต็มที่ต่อไปอย่างแน่นอน
ต่อมาเวลา 10.25 น. มีรายงานว่าศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุก น.ส.ชลธิชา ฐานผิด ม.112 จำคุก 2 ปี 8 เดือน จาก 4 ปี เนื่องจากมีเหตุลดโทษ โดยไม่รอลงอาญา ซึ่งขณะนี้ น.ส.ชลธิชา กำลังขอยื่นประกันตัว
สำหรับกรณีดังกล่าวหากศาลลงโทษแต่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างการสู้คดีชั้นอุทธรณ์หรือฎีกาในวันเดียวกันกับที่มีคำพิพากษา ก็จะยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ สส. ต่อไปได้เพราะยังไม่ถือว่าเข้าลักษณะต้องห้าม แต่หากศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุก และในวันที่ศาลมีคำพิพากษาศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว หรือสั่งให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณาคำสั่ง ซึ่งส่งผลให้จำเลยต้องถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ ก็จะถือว่าเข้าลักษณะต้องห้ามเป็นบุคคลที่ถูกศาลพิพากษาจำคุกและถูกคุมขังตามหมายศาลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(6) เป็นเหตุให้พ้นจากตำแหน่ง สส. ทันที
หาก สส. พ้นตำแหน่งด้วยเหตุนี้ ในกรณีที่เป็น สส. แบบแบ่งเขต รัฐธรรมนูญมาตรา 105 (1) กำหนดให้มีการตราพระราชกฤษฎีกาเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทนตำแหน่งที่ว่างลง (เลือกตั้งซ่อม) ยกเว้นอายุสภาเหลืออยู่ไม่ถึง 180 วัน โดยให้จัดการเลือกตั้งซ่อมภายใน 45 วัน นับจากวันที่สมาชิกสิ้นสมาชิกภาพ (นำมาตรา 102 มาบังคับโดยอนุโลม) สำหรับตัวของอดีต สส. หากพ้นจากตำแหน่งในลักษณะที่คดียังไม่ถึงที่สุดและได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวก็ยังถือว่าไม่เข้าลักษณะต้องห้ามสมัครรับเลือกตั้ง และกลับมาลงสมัครใหม่ได้อีก

