ศาลชั้นต้นฯพิพากษา ชลธิชา’ พรรคประชาชน จำคุก 2 ปี 8 เดือน ผิด ม.112

564

วันนี้ (8 กันยายน) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดา ผู้สื่อข่าวไทยแทบลอยด์ รายงานว่า​ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดปทุมธานี เขต 3 พรรคประชาชน เดินทางมายังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.595/2565 ในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากกรณีการปราศรัย โดย น.ส.ชลธิชา เดินทางมาถึงศาลในเวลา 09.19 น. ท่ามกลางกำลังใจจากกลุ่มผู้ติดตามและเพื่อน สส. พรรคประชาชน เช่น นายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี, น.ส. กัลยพัชร รจิตโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงนายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล

ก่อนเข้าห้องพิจารณาคดี น.ส.ชลธิชา​ เปิดเผยว่า ตนเองไม่กังวลในทางคดี เนื่องจากได้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ในการสืบพยาน โดยมีการรวบรวมข้อเท็จจริง เหตุผล และข้อกฎหมายต่างๆ มาประกอบการพิจารณา พร้อมยืนยันว่าไม่ว่าคำพิพากษาจะออกมาเป็นอย่างไรก็พร้อมรับมือ และได้เตรียมการเรื่องการประกันตัวไว้แล้ว เพราะเชื่อว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในการต่อสู้คดีในศาลชั้นอุทธรณ์และศาลฎีกาต่อไป

เมื่อถามถึงความมั่นใจในหลักฐานที่จะหักล้างข้อกล่าวหาได้หรือไม่ น.ส.ชลธิชา​ กล่าวว่า ตนเองค่อนข้างมั่นใจ โดยอ้างถึงคดีที่ศาลธัญบุรีซึ่งตนเองถูกตัดสินจำคุก 2 ปี แต่ยืนยันว่าทุกคำปราศรัยมีเจตนาที่บริสุทธิ์และปรารถนาดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อให้สถาบันฯ ดำรงอยู่อย่างมั่นคงในประเทศไทย ในส่วนของผลกระทบต่อตำแหน่ง สส. หากไม่ได้รับการประกันตัว น.ส.ชลธิชา​ระบุว่า ตนและพรรคประชาชนได้เตรียมความพร้อมสำหรับทุกกรณีไว้แล้ว เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มั่นใจได้ว่าพรรคจะมีผู้แทนคอยดูแลอย่างเต็มที่ต่อไปอย่างแน่นอน

ต่อมาเวลา 10.25 น. มีรายงานว่าศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุก น.ส.ชลธิชา ฐานผิด ม.112 จำคุก 2 ปี 8 เดือน จาก 4 ปี เนื่องจากมีเหตุลดโทษ โดยไม่รอลงอาญา ซึ่งขณะนี้​ น.ส.ชลธิชา​ กำลังขอยื่นประกันตัว

สำหรับกรณีดังกล่าวหากศาลลงโทษแต่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างการสู้คดีชั้นอุทธรณ์หรือฎีกาในวันเดียวกันกับที่มีคำพิพากษา ก็จะยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ สส. ต่อไปได้เพราะยังไม่ถือว่าเข้าลักษณะต้องห้าม แต่หากศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุก และในวันที่ศาลมีคำพิพากษาศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว หรือสั่งให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณาคำสั่ง ซึ่งส่งผลให้จำเลยต้องถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ ก็จะถือว่าเข้าลักษณะต้องห้ามเป็นบุคคลที่ถูกศาลพิพากษาจำคุกและถูกคุมขังตามหมายศาลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(6) เป็นเหตุให้พ้นจากตำแหน่ง สส. ทันที

หาก สส. พ้นตำแหน่งด้วยเหตุนี้ ในกรณีที่เป็น สส. แบบแบ่งเขต รัฐธรรมนูญมาตรา 105 (1) กำหนดให้มีการตราพระราชกฤษฎีกาเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทนตำแหน่งที่ว่างลง (เลือกตั้งซ่อม) ยกเว้นอายุสภาเหลืออยู่ไม่ถึง 180 วัน โดยให้จัดการเลือกตั้งซ่อมภายใน 45 วัน นับจากวันที่สมาชิกสิ้นสมาชิกภาพ (นำมาตรา 102 มาบังคับโดยอนุโลม) สำหรับตัวของอดีต สส. หากพ้นจากตำแหน่งในลักษณะที่คดียังไม่ถึงที่สุดและได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวก็ยังถือว่าไม่เข้าลักษณะต้องห้ามสมัครรับเลือกตั้ง และกลับมาลงสมัครใหม่ได้อีก