ตำรวจ CIB ทลายคลังบุหรี่ไฟฟ้าแม่กลอง ยึดกว่า 5 หมื่นชิ้น พบรุ่นการ์ตูนหวังมอมเมาเด็ก

802

ตำรวจCIB​ ทลายรังกระจายบุหรี่ไฟฟ้าย่านแม่กลอง
ยึดบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาจำนวนหลายหมื่นชิ้นแถมพบบุหรี่ไฟฟ้าคล้ายของเล่นเด็ก หวังมอมเมาเยาวชน

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.นฤพนธ์ กรุณา ผกก.2 บก.ปอศ., พ.ต.ท.วันเผด็จ จันยะรมณ์ รอง ผกก.2 บก.ปอศ. และ พ.ต.ท.ชวพล เชื้อเพ็ชร์​ รอง ผกก.2 บก.ปอศ.

เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้น นำโดย พ.ต.ต.นพคุณ ทัศนมาลัย สว.กก.2 บก.ปอศ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ปอศ.สถานที่ตรวจค้น บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ตำบลบ้านปรก อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงครามตรวจยึดของกลาง ได้แก่ บุหรี่ไฟฟ้า น้ำยา และส่วนควบ จำนวนประมาณ 50,000 ชิ้น

พฤติการณ์ เนื่องด้วยเจ้าพนักงานตำรวจ กก.2 บก.ปอศ. ได้สืบทราบว่าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 1 ตำบลบ้านปรก อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม มีการลักลอบนำเข้าสินค้าประเภทบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาและส่วนควบของบุหรี่ไฟฟ้าจากประเทศจีนมาเก็บไว้ในบ้านหลังดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นศูนย์กลางในการกระจายบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาให้กับเครือข่ายในพื้นที่ใกล้เคียง โดยจะนำออกไปขายให้กับกลุ่มเยาวชนและบุคคลทั่วไปเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับข้อมูลจึงได้ทำการสืบสวนขยายผลต่อโดยทันที เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยด้านสุขอนามัยพื้นฐานของประชาชน และเป็นนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการปราบปรามให้หมดสิ้น โดยประเทศไทยห้ามมีการนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในราชอาณาจักร


ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนเชื่อได้ว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นที่เก็บบุหรี่ไฟฟ้าอยู่จริง ซึ่งเป็นสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศ และเป็นสินค้าต้องห้ามโดยนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเสียภาษีไม่ครบถ้วนถูกต้อง นําของที่ผ่านหรือกําลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร หรือส่งของดังกล่าวออกไปนอกราชอาณาจักร หรือนําของเข้าเพื่อการผ่านแดนหรือการถ่ายลําโดยหลีกเลี่ยง ข้อจํากัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้นมาเก็บไว้จำหน่ายจริง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อยื่นคำร้องขอหมายศาลเข้าทำการตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว

ต่อมา เจ้าพนักงานตำรวจ กก.2 บก.ปอศ. ได้นำหมายค้นของศาลมาทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว เพื่อพบและยึดสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศ ซึ่งต้องสงสัยว่าลักลอบนำเข้ามาภายในราชอาณาจักรไทยโดยหลีกเลี่ยงภาษีอากร หรือมิได้ดำเนินการให้ครบถ้วนถูกต้องตามพิธีการศุลกากร หรือซื้อ รับไว้ หรือได้มาซึ่งสินค้าที่มีความผิด ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เมื่อมาถึงบ้านเป้าหมายดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พบผู้ใดมาแสดงตนหรือพักอาศัยอยู่ภายในบ้านดังกล่าว จึงได้ดำเนินการติดตามหาข้อมูลเจ้าของสถานที่ตามที่ระบุในหมายค้น จนกระทั่งมีนางบุษบาฯ ได้มาแสดงตนเป็นเจ้าของ/ผู้ให้เช่าบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงหมายค้นให้นางบุษบาฯ ดูจนเป็นที่พึงพอใจแล้วจึงได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปทำการตรวจค้น เมื่อเข้าไปถึงพบว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ปิดมืด พบกล่องกระดาษวางเรียงกันอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อทำการตรวจสอบภายในกล่องพบบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาและส่วนควบบรรจุอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงบุหรี่ไฟฟ้ารูปการ์ตูนซึ่งมีลักษณะคล้ายกับของเล่นเด็ก สามารถดึงดูดเยาวชนให้สนใจมาใช้ได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นับจำนวนบุหรี่ไฟฟ้าที่พบทั้งหมดแล้วมีจำนวนหลายหมื่นชิ้น ตีเป็นมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ซึ่งเชื่อได้ว่าเป็นสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศ เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักรไทย และข้างกล่องก็ระบุถึงยี่ห้อของบุหรี่ไฟฟ้าและมีคำว่า “Made in China” เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้ดำเนินการยึดสิ่งของดังกล่าวทั้งหมด ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจําหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจํานําหรือรับไว้ โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของที่นําเข้ามาในราชอาณาจักร โดยมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร” ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา 246 โดยจะได้ดำเนินการขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การนางบุษบาฯ (ผู้ให้เช่าบ้าน) เบื้องต้น นางบุษบาฯ ซึ่งเป็นเจ้าของสถานที่ (ผู้ให้เช่า) แจ้งว่าสินค้าดังกล่าวทั้งหมดไม่ใช่ของตนและไม่ทราบว่าเป็นของใคร แต่มีหญิงไทยได้มาเช่าบ้านดังกล่าวกับนางบุษบามาตั้งแต่ปี 2566 โดยนางบุษบาฯ ไม่ทราบมาก่อนเลยว่าจะนำมาเป็นที่เก็บบุหรี่ไฟฟ้ากองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ดำเนินการตามมาตรการเชิงรุก ป้องกันปราบปรามและจับกุมผู้กระทำความผิดที่ได้ลักลอบนำเข้าสินค้าหนีภาษีหรือสินค้าต้องห้ามจากต่างประเทศ โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งถือเป็นสินค้าที่ถูกห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักรไทย และฝากเตือนถึงประชาชนให้ระมัดระวังบุตรหลานของท่านในการซื้อขาย ครอบครอง หรือรับไว้ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากปัจจุบันมีการทำให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นรูปการ์ตูนคล้ายของเล่นเพื่อหวังดึงดูดเด็กและเยาวชนให้สนใจหันมาใช้ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ อีกทั้งการลักลอบนำเข้า ซื้อขาย ครอบครอง หรือรับไว้ จะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 246 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 โดยการอ้างว่าไม่รู้ก็ไม่สามารถทำให้ตนนั้นพ้นผิดได้ ดังนั้นแล้วควรหยุดใช้ หยุดครอบครอง และหยุดขายบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อไม่ให้ต้องรับโทษตามกฎหมาย

“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน​ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง​ ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด​ ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”