
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรชาติ ธีรชาติธำรง ผบก.ปพ.,พ.ต.อ.สุรพันธ์ มั่นคงดี, พ.ต.อ. วรศักดิ์ บัณฑิต รอง ผบก.ปพ., พ.ต.อ.ชนกฤดิ พงษ์ศิริ ผกก.สายตรวจบก.ปพ.,พ.ต.ท.ราชัน แก้วคูนอก รอง ผกก.สายตรวจ บก.ปพ.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.อาชวิน อาจทวี สว.กก.สายตรวจฯ, ร.ต.ต.สุเทพ ชิดมณี รอง สว.(ป). กก.สายตรวจ บก.ปพ., จ.ส.ต.วัชรพงษ์ พุทธจร ,จ.ส.ต.ภาณุพงศ์ วงศ์เมืองจันทร์ , ส.ต.ท.บรรณสิทธิ์ หงษ์ทอง ผบ.หมู่.กก.สายตรวจ บก.ปพ. ร่วมกันจับกุม นางสาว ปริญาณีฯ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.1385/2566 ลงวันที่ 26 ธ.ค.2566 ต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ ร่วมกันรีดเอาทรัพย์ ” สถานที่จับกุม บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ซ.ทองย้อย ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

ตรวจสอบประวัติพบหมายจับเพิ่มเติม หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.1382/2566ลงวันที่ 22 ธ.ค. 2566 ต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ฉ้อโกงทรัพย์โดยการแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง”
พฤติการณ์ ก่อนเกิดเหตุ ได้มีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก ชื่อ “นภาพร” ใช้ภาพโปรไฟล์เป็นหญิง หน้าตาดี เพิ่มเป็นเพื่อนทางเฟซบุ๊กกับผู้เสียหาย และมีการส่งข้อความทักทายและพูดคุยกัน จนเชื่อใจ ต่อมาได้มีการโทรศัพท์ผ่านเฟซบุ๊กและมีการสนทนาแบบวิดีโอคอลกับผู้เสียหาย ระหว่างนั้นได้มีการพูดจาล่อลวง ให้เชื่อใจ และให้ผู้เสียหายถอดเสื้อผ้าในลักษณะลามกอนาจาร ต่อมาคนร้ายข่มขู่ว่าวิดีโอคอลทั้งหมดมีการบันทึกภาพและคลิปไว้ พร้อมข่มขู่ให้โอนเงินไปให้ ไม่เช่นนั้นจะนำคลิปวิดีโอลับเผยแพร่สู่สาธารณะทำให้ผู้เสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง ผู้เสียหายเกรงว่าการเปิดเผยคลิปวิดีโอดังกล่าวจะทำให้ตนเองเสียหาย จึงยินยอมโอนเงินไปที่บัญชีธนาคาร จำนวน 5 ครั้ง รวมเป็นเงิน 190,000 บาท หลังจากโอนเงินไปแล้ว คนร้ายยังคงข่มขู่และขู่เข็ญให้โอนเงินให้อีกต่อเนื่องไม่จบสิ้น ผู้เสียหายจึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน นำไปสู่การรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมขอศาลออกหมายจับนางสาว ปริญาณีฯ ผู้ต้องหารายนี้ไว้

ชุดสืบสวนได้สืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหา กระทั่งทราบว่าหลังเกิดเหตุผู้ต้องหาได้หลบหนีมาอาศัยอยู่ ในพื้นที่อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงไปตรวจสอบพบผู้ต้องหาอยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อซ.ทองย้อย ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแสดงหมายจับและสิทธิตามกฎหมาย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ

“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชนให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”

