ตำรวจCIB รวบแล้ว หนุ่มแสบแหกห้องขังจาก จ.สุราษฎร์ธานี ขโมยรถจักรยานยนต์ ระหว่างทางรถชนแฟนขาหักหนีต่อ พบประวัติเกี่ยวกับทรัพย์อื้อ
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม, พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก.,พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย, พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.อนุสรณ์ ทองไสย รรท.ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล, พ.ต.ท.วชิระ ศุภพิสิฐกุล,พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิยโย, พ.ต.ท.กันตเมศฐ์ อัครโชควรานนท์ และ พ.ต.ท.กิติภูมิ ศรีแผ้ว รอง ผกก.6 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ บุญทอง สว.กก.6 บก.ป.,ว่าที่ พ.ต.ต.ปฏิภาณ สุขฐิน ว่าที่ สว.กก.6บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายปฏิกาญจน์ฯ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดไชยา ที่ จ.8/2564 ลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันหลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมตามอำนาจของพนักงานสอบสวนหรือพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาและร่วมกันเอาไปเสียหรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์สิน (รถจักรยานยนต์ของกลาง) ที่เจ้าพนักงานได้ยึดรักษาไว้เพื่อให้บังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ว่าเจ้าพนักงานจะรักษาทรัพย์นั้นไว้เองหรือสั่งให้ผู้นั้น หรือผู้อื่นส่ง หรือเก็บรักษาไว้ก็ตาม”สถานที่จับกุม บริเวณริมถนนกำแพงเพชร 6 แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 ก.พ.64 ผู้เสียหายมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี และมีพลเมืองดี พบเห็นนาย นายปฏิกาญจน์ฯ ร่วมกับภรรยา น.ส.กรรณิการ์ฯลักยางพารา 149 แผ่น ภายในบ้านไม่มีเลขที่ ม.10 ต.ท่าเคย อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี ต่อมาถูกจับกุมได้และควบคุมตัวไว้ในห้องขัง ตามคดีอาญาที่ 42/2564 จากนั้นผู้ต้องหาแอบสะเดาะกุญแจ ห้องขัง พร้อมลักเอารถจักรยานยนต์หลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจภ.จว.สุราษฎร์ธานี พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานจนนำไปสู่การออกหมายจับข้างต้น
ต่อมาทราบว่า หลังผู้ต้องหาหลบหนีจากพื้นที่ สภ.ท่าฉาง และได้นำรถจักรยานยนต์ของกลาง หลบหนี เมื่อขับร จักรยานยนต์ไปถึงพื้นที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้พารถจักรยานยนต์ของกลางไปขาย พื้นที่ อ.ทับสะแก จ.ประจวบ และขโมยเอารถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าบ้านแห่งหนึ่ง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขับหลบหนีต่อไป เมื่อขับขี่ไปถึงบริเวณพื้นที่ อ.คง จ.นครราชศรีมา ขับรถด้วยความเร็ว ไปชนกับรถกระบะ เป็นเหตุให้ภรรยาได้รับบาดเจ็บขาหัก รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายไม่สามารถขับไปต่อได้ และภรรยาผู้ต้องหาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล จ.นครราชศรีมา ด้วยในระหว่างทำการรักษา กลัวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุมตัวที่ได้กระทำความผิดหลบหนีมา จึงได้ลักเอารถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ในลานจอดรถพาภรรยาขับขี่หลบหนี
ต่อมา วันที่ 26 ก.พ.64 เมื่อผู้ต้องหาหลบหนี มาถึงพื้นที่ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เพื่อนัดเจอกับเพื่อนที่ จ.อุดรธานี ในระหว่างนั้นได้ไปลักทรัพย์ รถจักรยานยนต์อีกคันหนึ่งของบุตรสาวของผู้เสียหายที่ได้ขับมาทำงานจอดอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า อ.กุมภวาปี ต.กุมภวาปี จ.อุดรธานี และผู้ต้องหาได้ขับรถไปหลบหนีไปกบดานที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไปทำการจับกุมตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้สืบสวน ทราบว่า นายปฏิกาญจน์ฯ กำลังจะเดินทางกลับบ้าน อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ และปรากฏตัวอยู่ที่บริเวณริมถนนกำแพงเพชร 6 แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร จึงได้เข้าตรวจสอบแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสามารถจับกุมตัวได้ ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการตรวจสอบประวัติ
พบมีประวัติเกี่ยวกับลักทรัพย์ชิงทรัพย์หลายคดีสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชนให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”
