วันที่ 30 สิงหาคม 2568 พริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคประชาชน กล่าวว่าหลังจากที่พรรคประชาชน (ปชน.) ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวาน (29 ส.ค.) ว่าหากรักษาการนายกฯ ไม่ยุบสภา และไม่มีบุคคลใดในบัญชีนายกรัฐมนตรีที่สามารถรวบรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ทางพรรคพร้อมจะใช้กระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อให้เกิดการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว โดยพิจารณาเลือกบุคคลไปดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ภายใต้เงื่อนไข ให้นายกฯ คนใหม่ยุบสภาใน 4 เดือน ให้จัดประชามติภายในวันเลือกตั้ง สส. เพื่อทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยสภาร่างที่มาจากการเลือกตั้ง โดยที่พรรคประชาชนจะเป็นฝ่ายค้านต่อไป ไม่ส่งคนไปเป็นรัฐมนตรี
พริษฐ์ กล่าวว่า พรรคประชาชนขอย้ำว่าหากประเทศมีนายกฯ คนใหม่ตามเงื่อนไขนี้จริง พรรคจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านต่อรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่ถูกตั้งขึ้นมา เพื่อใช้กลไกสภา รวมถึงกลไกการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ในการควบคุมรัฐบาลให้รักษาสัญญาตามเงื่อนไข และในการตรวจสอบรัฐบาลในกรณีที่มีการทุจริต การใช้อำนาจโดยมิชอบ หรือการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม

โฆษก ปชน. กล่าวว่า หลังจากได้ประกาศเงื่อนไขดังกล่าวพรรคภูมิใจไทยได้ติดต่อมาขอเข้าพบผู้บริหารพรรคประชาชนเพื่อรับทราบรายละเอียดเมื่อวานเย็น แต่ทางยังไม่ได้รับการติดต่อมาอย่างเป็นทางการจากทางพรรคเพื่อไทย เห็นแต่การให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อของแกนนำพรรคเพื่อไทยเท่านั้น
พรรคประชาชนขอย้ำว่ายังไม่มีการตกลงใดๆ กับพรรคใด และพร้อมจะพิจารณากับข้อเสนอของทุกพรรคด้วยมาตรฐานเดียวกัน โดยจะยึดหลักการพิจารณาดังต่อไปนี้ 1. หากพรรคใดพร้อมจะตอบรับเงื่อนไข ขอให้พรรคดังกล่าวแถลงต่อสาธารณะอย่างชัดเจน และทำความเข้าใจ 3 เงื่อนไขของ ปชน. อย่างถ่องแท้ โดยพรรคยินดีหารืออย่างเป็นทางการเพื่อรับทราบเจตนารมณ์ และชี้แจงรายละเอียด 2.กระบวนการตัดสินใจภายในพรรคประชาชนเกี่ยวกับข้อเสนอต่างๆ จะเกิดขึ้นหลังจากพรรคที่พร้อมตอบรับเงื่อนไขแถลง และพูดคุยกับ ปชน. อย่างเป็นทางการเท่านั้น

พรรคประชาชนขอยืนยันว่าพรรคตระหนักดีว่าเหตุผลที่ทำให้มี สส. 143 คน เป็นเพราะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนจำนวนมากในการเลือกตั้งปี 2566 ทางพรรคจะไม่นำความไว้วางใจที่ประชาชนมอบให้ ไปกระทำการใดๆ ที่ขัดกับหลักการของพรรคหรือคำพูดที่เคยให้ไว้กับสาะรณะ แต่จะเน้นการขับเคลื่อนประเทศไปสู่การเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงประเทศตามอุดมการณ์ที่พรรคประชาชนยึดมั่น

