วันที่ 29 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีกระแสข่าวว่าการย้าย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เข้าประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพราะไม่สนับสนุนนโยบายผู้มีอำนาจแต่งตั้งโผนายพล ที่มีผู้มีอำนาจเสนอชื่อ พล.ต.ท.นพ.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่เกี่ยวข้องคดีชั้น 14 ทำให้การประชุม ก.ตร. เมื่อวานนี้ (28 ส.ค. 68) ล่ม และเลื่อนออกไปนั้น
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า สื่อรู้ได้อย่างไรว่าโผแต่งตั้งมีปัญหา ในเมื่อยังไม่มีการประกาศออกมา ยอมรับว่าเพราะมีเรื่องร้องเรียนของตำรวจทั้ง 4 นายที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในสายตาประชาชน ทั้ง 4 คนได้เขียนจดหมายร้องเรียนอย่างเป็นทางการ โดยหนังสือถึงตนเองแล้วได้ปรึกษากับคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ให้คำแนะนำว่า เป็นสิทธิของผู้ร้องที่จะหยิบมาพิจารณาได้เพราะยังไม่มีความผิดใด ตามกฎ ก.ตร. มีสิทธิ์ได้รับการเสนอชื่อมา ส่วนจะรับได้หรือไม่ เป็นสิทธิ์ของคณะกรรมการ ก.ตร.
ส่วนกรณี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ที่ร้องขอให้ทบทวนการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้รับเรื่องแล้ว นายภูมิธรรม กล่าวว่า บรรยากาศก่อนการประชุม ก.ตร. ได้หารือนอกรอบกับ ผบ.ตร. นาน 2 ชม. จริง ได้หยิบเรื่องร้องเรียนทั้งหมดมาพูดคุยโดยตรง ทาง ผบ.ตร. ได้ยืนยันว่าทำทุกอย่างตามกรอบและหน้าที่ แต่สิ่งสำคัญในการพิจารณาแต่งตั้งคือระบบ หากปล่อยข้ามไป ส่งผลต่อคนอื่นที่จะทำงานต่อจนตนเองต้องเสนอให้เลื่อนการพิจารณาออกไปก่อนเพื่อให้เรียบร้อยก่อนขึ้นทูลเกล้ารายชื่อ จึงได้มาแจ้งที่ประชุมใหญ่ว่าจะเลื่อนการประชุม ก.ตร. ไปพิจารณาครั้งหน้า วันที่ 31 ส.ค. นี้ เวลา 15.00 น. น
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก่อนที่ตนออกจากห้องประชุม มีตำรวจตะโกนบอกว่าตนเองใช้อำนาจหน้าที่มิชอบ กำลังทำสิ่งที่ผิด ตนได้ยืนยันกลับไปว่า ทำหน้าที่ถูกต้อง โดยกรอบและอำนาจประธาน เพราะต้องการให้ทุกอย่างมีความชอบธรรมก่อน จึงมีสิทธิ์เลื่อนการประชุมออกไปส่วนข่าวที่ออกไปว่าจะเด้ง ผบ.ตร. เป็นเรื่องเกินเลย ยืนยันว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับ ผบ.ตร. ไม่เคยพูดให้ย้าย ขณะเดียวกันรู้สึกเห็นใจที่ทำงานมา และเห็นใจตัวเองที่มีหนังสือร้องเรียนมา ตนเองไม่มีอำนาจที่จะเด้งใครได้ การเด้งทุกอย่างต้องมีเหตุและผล ซึ่งเมื่อคืนนี้ได้ส่งข้อความไปขอโทษ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ที่ต้องตัดสินใจแบบนี้ เพราะอยากทำให้ทุกอย่างโปร่งใส พร้อมขอสื่ออย่านำเรื่องนี้มาถามปลุกให้เป็นเรื่องขัดแย้งกัน
