วันนี้ 28 ส.ค. 68 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาทำหน้าที่ประธาน ก.ตร. โดยมีวาระการประชุมที่สำคัญคือ วาระการแต่งตั้งชั้นนายพล ตั้งแต่ รอง ผบ.ตร.-ผบก. ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นั้น

มีรายงานว่า เหตุผลหลัก ๆ คือ เมื่อถึงวาระการแต่งตั้ง นายภูมิธรรมฯ ในฐานะประธาน ก.ตร. ได้นำข้อมูลการร้องเรียนเกี่ยวกับการแต่งตั้งของ พล.ต.ต.นพ.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. , พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.ตชด. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. แจ้งต่อที่ประชุมว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งครั้งนี้ และสั่งการให้ฝ่ายเลขานุการของ ก.ตร. รับไปตรวจสอบก่อน จึงให้เลื่อนการประชุมและนัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 31 ส.ค. 68 เวลา 15.00 น. จากนั้นได้สั่งปิดประชุมทันที โดยไม่รับฟังคำทักท้วงของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) หลายท่าน

ยังมีรายงานอีกว่า เบื้องลึกเบื้องหลังสายข่าวแจ้งว่า สาเหตุลึก ๆ คือ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ไม่ยอมก้มหัวต่อการเมือง ที่จะเสนอชื่อให้ พล.ต.ท.โสภณรัตน์ฯ ขึ้นรับตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. หรือ จตช. และไม่สนองนโยบายเรื่องการแต่งตั้งตามที่ผู้มีอำนาจทางฝ่ายการเมืองต้องการซึ่งการปฏิบัติของประธานที่ประชุมในครั้งนี้ก็ถือได้ว่าปฏิบัติไปตามอำนาจที่มี แต่เหตุผลดังกล่าวนั้นถือว่าเหมาะสมเพียงพอหรือไม่ที่จะให้เลื่อนการประชุมและปิดการประชุมโดยไม่ฟังคำคัดค้านของกรรมการ ก.ตร. เลยเช่นนี้ เนื่องจากในรายละเอียดคำร้องเรียนของแต่ละคนก็อยู่ในกระบวนการขั้นตอนที่ ก.ตร. และคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งของ ตร. ก็สามารถพิจารณาได้ตามกฎหมายและกฎ ก.ตร. เพื่อจะให้การแต่งตั้งดังกล่าวผ่านพ้นไปด้วยความเรียบร้อย แต่การเมืองกลับใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้การประชุมไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ หรือทำให้การประชุมล่มนั่นเอง

ยังมีรายงานข่าวเชิงลึกอีกว่า การทำหนังสือร้องเรียนดังกล่าว มีทีมงานจัดทำข้อมูล สอบถามประวัติของผู้ร้องเรียน แล้วทำหนังสือร้องเรียนขึ้นที่กระทรวงมหาดไทย แล้วให้ผู้ร้องเรียนมาลงชื่อกัน ส่วนจะข้อเท็จจริงประการใดก็ต้องรอการพิสูจน์ต่อไป
“ซึ่งกรณีดังกล่าวนี้ ผบ.ตร. บรรดาคณะ ก.ตร. ได้หารือกันว่าจะยืนหยัดรักษาองค์กรนี้ไว้ได้หรือไม่ คงต้องติดตามกันในการประชุมครั้งต่อไป” แหล่งข่าวในที่ประชุมกล่าว




