เครือข่ายผู้ใช้แรงงานพรรคประชาชน นำโดยนายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ แถลงคัดค้านการเลื่อนจัดเก็บเงินเข้ากองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างออกไป 1 ปี หลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้เลื่อน จากเดิมที่จะเริ่มจัดเก็บในวันที่ 1 ตุลาคม นี้ ออกไปเป็นวันที่ 1 ตุลาคม 2569 โดยกระทรวงแรงงานให้เหตุผลว่า ด้วยภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันมีความไม่แน่นอนจากปัจจัยหลายด้าน ทั้งการปรับขึ้นภาษีการค้าของสหรัฐอเมริกา การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ตลอดจนสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดน ส่งผลให้สถานประกอบการได้รับผลกระทบต้องปรับตัวและเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้น ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเลื่อนระยะเวลาการเก็บเงินสะสมและเงินสมทบดังกล่าว เพื่อลดภาระทางการเงินของนายจ้างและลูกจ้าง จากภาวะความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในครั้งนี้
นายเซีย กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเคยเป็นลูกจ้างมานานกว่า 30 ปี ทำงานใกล้ชิดกับผู้ใช้แรงงานจำนวนมาก รู้สึกผิดหวังและไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้ของนายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ได้ทำลายความหวังของแรงงานมากกว่า 9.34 ล้านคน ที่เฝ้ารอการจัดตั้งกองทุนมานานกว่า 26 ปี โดยหวังเพียงว่าหากมีการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนจะทำให้แรงงานมีเงินออม เมื่อต้องออกจากงานหรือเสียชีวิต ซึ่งอัตราการจัดเก็บอยู่ที่ 0.25% เท่านั้น
นายเซีย อธิบายถึงเหตุผลที่เครือข่ายผู้ใช้แรงงานพรรคประชาชน คัดค้านการเลื่อนการจัดเก็บกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างออกไปอีก 1 ปี เนื่องจากลูกจ้างรอคอยกองทุนนี้มากว่า 26 ปี ทั้งที่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 กำหนดให้มีการจัดตั้งกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง แต่รัฐบาลทุกยุคที่ผ่านมากับเพิกเฉย ทำให้ลูกจ้างกว่า 9 ล้านคน ขาดหลักประกัน ไม่มีเงินออมไว้ใช้จ่ายในยามจำเป็น เมื่อต้องออกจากงานหรือเสียชีวิต พิสูจน์ได้จากที่ผ่านมาว่าลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างจะไม่มีเงินออมและเดือดร้อน จนต้องออกมาเรียกร้องต่อรัฐบาลให้ช่วยเหลือ ซึ่งการเลื่อนจัดเก็บเงินออกไปอีก 1 ปี ทำให้ลูกจ้างเสียโอกาสสะสมเงินรวมไม่ต่ำกว่า 16,784 ล้านบาท จากทั้งเงินสะสมและเงินสมทบ ซึ่งควรเป็นหลักประกันความมั่นคงในชีวิต
ส่วนการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานคนใหม่ไม่มีหลักประกันว่าจะไม่เลื่อนอีกและไม่มีความชัดเจนว่าจะไม่เลื่อนอีกเมื่อครบกำหนด และสุดท้าย ลูกจ้างยังตกอยู่ในความเสี่ยง หากเกิดวิกฤตหรือมีการเลิกจ้างจำนวนมาก รัฐบาลจะรับผิดชอบเยียวยาแรงงานหรือไม่ ที่ผ่านมาแรงงานของโรงงานหลายแห่งออกมาเรียกร้อง แต่ไม่ได้รับการตอบรับ ซ้ำร้ายบางกรณียังถูกรัฐบาลดำเนินคดีอีก
กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างไม่ใช่ภาระ แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการคุ้มครองแรงงานที่จะสร้างความมั่นคงในการใช้ชีวิตให้กับแรงงานทั้งประเทศ จึงขอเรียกร้องให้นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ออกมาขอโทษ พร้อมให้กรอบเวลาที่ชัดเจนว่าจะดำเนินการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนนี้โดยเร่งด่วนได้เมื่อไร
ด้านนายธนพงศ์ เชื้อเมืองพาน ตัวแทนผู้ใช้แรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า แรงงานทั่วประเทศต่างรอคอยกองทุนนี้มานานกว่า 26 ปี และหวังว่าการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนจะมีผลในวันที่ 1 ตุลาคม นี้ แต่กลับฝันสลาย เมื่อ ครม. ให้เลื่อนออกไป ซึ่งกองทุนนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แรงงานมีหลักประกันในชีวิตและความมั่นคงทางการเงินในกรณีที่ออกจากงานหรือถูกเลิกจ้าง
