โฆษก ทบ. โต้ข่าวบิดเบือนเขมร ชี้ยั่วยุ ขัดข้อตกลงหยุดยิง ยันทหารวางลวดหนาม “บ้านหนองจาน” เขตอธิปไตยไทย ลั่นไม่ตกหลุมพรางใช้กำลังแน่

508

กองทัพบก, วันที่ 27 ส.ค. – จากกรณีที่สำนักข่าว Fresh News รายงานว่า นายชุม ซอนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา แถลง เมื่อเย็นวันที่ 26 สิงหาคม ว่าฝ่ายไทยได้ละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการวางลวดหนามรุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนในหมู่บ้านโจกเจย อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งสะท้อนถึงฝ่ายไทยได้ขยายพื้นที่ความขัดแย้งเข้ามาสู่เขตชุมชนพลเรือน ซี่งขัดต่อบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในการประชุม GBC เมื่อ 7 สิงหาคม และ MOU 43

พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่า การวางลวดหนามเพื่อป้องกันตนเองของฝ่ายไทยนั้น เกิดจากการถูกคุกคามด้วยอาวุธทุ่นระเบิดจากฝ่ายกัมพูชา ซึ่งถือเป็นความตั้งใจที่จะละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งขอยืนยันว่าการดำเนินการดังกล่าวอยู่ในเขตอธิปไตยไทยทั้งสิ้น และจากการปฏิบัติดังกล่าวยืนยันว่าไม่ได้เป็นการรุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนในหมู่บ้านโจกเจยของฝ่ายกัมพูชา แต่กลับเป็นฝ่ายกัมพูชาที่สนับสนุนให้ประชาชนกัมพูชามารุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนไทย

โดยเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่บ้านหนองจานนั้น คือการที่ฝ่ายกัมพูชาได้สนับสนุนให้มีการตั้งชุมชนรุกล้ำเข้ามาในเขตอธิปไตยของไทย ซึ่งถือว่าผิดข้อตกลงตาม MOU43 จนทำให้ประชาชนไทยได้รับความเดือดร้อน แม้ฝ่ายไทยได้มีการประท้วงไปตามขั้นตอน แต่ก็ไม่เคยได้รับการแก้ไขจากฝ่ายกัมพูชา

โฆษก ทบ. กล่าวว่า การกระทำของไทยไม่ได้เป็นการขยายพื้นที่ความขัดแย้งเข้ามาสู่เขตชุมชนพลเรือน เพราะบริเวณพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ที่มีความขัดแย้งอยู่เดิม และเกิดขึ้นมานานกว่า 20 ปี โดยฝ่ายไทยได้ใช้แนวทางแก้ไขด้วยการประท้วงตามเงื่อนไขข้อตกลง MOU43 มาโดยตลอด แต่ฝ่ายกัมพูชากลับเพิกเฉย อีกทั้ง MOU43 ที่ห้ามไม่ให้ดำเนินการใด ๆ ที่อาจเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมในพื้นที่ชายแดนนั้น ไม่ใช่ฝ่ายไทยที่เป็นผู้ละเมิด แต่กลับเป็นฝ่ายกัมพูชาที่มีการดำเนินการก่อสร้างเพิ่มเติมทั้งในส่วนของบ้านเรือนประชาชน และอาคารพักพิงของทหารกัมพูชา

ดังนั้น ข้อกล่าวอ้างของกัมพูชาที่กล่าวหาว่าไทยละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และละเมิด MOU43 นั้น ล้วนเป็นเรื่องบิดเบือนที่กัมพูชาพยายามให้ร้ายฝ่ายไทย ต่อกรณีนี้ถือเป็นการบิดเบือนข่าวสารของกัมพูชา ซึ่งนับเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงด้วยเช่นกัน

จนกระทั่งล่าสุดจากการที่ฝ่ายไทยพยายามวางลวดหนามเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับคณะสำรวจที่ดินฝ่ายไทย ทางฝ่ายกัมพูชาได้สนับสนุนให้ประชาชนเข้ามาก่อกวน แสดงออกในท่าทีที่ก้าวร้าว อาจมุ่งหวังให้ไทยเพลี่ยงพร้ำไปใช้ความรุนแรงตอบโต้ แล้วแอบเก็บบันทึกภาพไปฟ้องชาวโลก แต่เนื่องจากฝ่ายไทยได้รู้เท่าทัน อาศัยความอดทนอดกลั้น จึงอาจทำให้สิ่งที่ฝ่ายกัมพูชาตั้งใจไว้นั้นไม่บรรลุผลได้ตามที่ต้องการ