‘รองฯเต่า’เผย“หมอบี” ให้การกลับไปกลับมา อาจช่วยกันเอาตัวรอด ย้ำหลักฐานตำรวจแน่น ไม่หวั่นข้อมูลผ่านสื่อ

325

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้ากรณี “หมอบี” และวัดพระบาทน้ำพุ ว่า จากการสอบปากคำหลายครั้ง พบว่าคำให้การของหมอบีแทบไม่เหมือนกันในแต่ละครั้ง โดยครั้งล่าสุดมีการโยนความรับผิดชอบไปให้หลวงพ่ออลงกต อ้างว่าส่งมอบเงินทั้งหมดให้หลวงพ่อ ขณะที่ครั้งแรกเคยบอกว่าแบ่งเงินไว้บางส่วน

รอง ผบช.ก. ระบุว่า เจ้าหน้าที่กองปราบฯ ได้สอบสวนและตรวจสอบโดยให้น้ำหนักกับพยานหลักฐานและเอกสารประกอบ ไม่ได้พึ่งพาคำให้การเพียงอย่างเดียว พร้อมมองว่าพฤติกรรมของหมอบีเป็นการพยายามเอาตัวรอด หรืออาจช่วยกันเพื่อให้รอดพ้นคดี แต่ไม่สามารถหลีกหนีข้อเท็จจริงและหลักฐานที่ตำรวจมีได้ ยิ่งให้ข้อมูล ยิ่งย้อนแย้ง และยิ่งเข้าตัว

ในส่วนของการเชิญหลวงพ่ออลงกตมาให้ปากคำ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนยังไม่มีแผนดำเนินการ เนื่องจากยังมีประเด็นอื่นต้องเร่งทำ ส่วนประเด็นเส้นทางการเงิน เช่น การเบิกเงินสด 3 ล้านบาท แต่ใส่ซองให้กว่า 2 ล้านบาทนั้น รอง ผบช.ก. ชี้ว่า “กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา” และการกระทำดังกล่าวไม่ตรงไปตรงมา ต่างจากวิญญูชนทั่วไปที่มักโอนเงินเข้าบัญชีโดยตรง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการที่หลวงพ่อรับเงินในซอง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ไม่ตอบตรง ๆ เพียงระบุว่า การรับ–จ่ายเงินต้องมีขั้นตอนโปร่งใส หากไม่มีการนับหรือชี้แจง อาจเข้าข่าย “รู้กันและแบ่งปันผลประโยชน์” และยังกล่าวถึงสัดส่วนผลประโยชน์ว่า “วัดมากกว่า กรรมการนิดหน่อย” ซึ่งยังเป็นเพียงข้อสงสัยของชุดสืบสวน พร้อมย้ำว่าหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ไม่สามารถถูกลบล้างด้วยคำพูดได้

สุดท้าย รอง ผบช.ก. ขอให้สังคมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะคดียังอยู่ระหว่างการสอบสวนและตรวจสอบเส้นทางการเงินย้อนหลัง