ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) วันที่ 13 สิงหาคม – นายธนสุนทร สว่างสาลี อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ แถลงข่าว “กิจกรรมส่งต่อกำลังใจ ผู้สูงวัย 100 ปี”เพื่อเชิดชูเกียรติและให้กำลังใจแก่ผู้สูงอายุที่มีอายุครบ 100 ปีขึ้นไป โดยมี นางพรนิภา มาสิลีรังสี นางวาสนา ทองจันทร์ รองอธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ พร้อมด้วยพันธมิตร อาทิ นางสาวกอบกุล กวั่งซ้วน ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านผู้สูงอายุ บริษัท คาโอ อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด มูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) มูลนิธิ Five for All มูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท การรถไฟแห่งประเทศไทย สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมการค้าและการบริการสุขภาพผู้สูงอายุไทย เข้าร่วมงาน

นายธนสุนทร กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยสังคมสูงวัยแบบสมบูรณ์ โดยมีประชากรผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 13.826 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 21.31 ของประชากรทั้งหมด และคาดว่าจะเป็นสังคมสูงอายุระดับสุดยอด ในปี พ.ศ. 2576 การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นประเด็นท้าทายต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศส่งผล กระทบกับแรงงาน การขยายตัวทางเศรษฐกิจ ระบบบำเหน็จบำนาญ ความมั่นคงทางการเงินหลังเกษียณ ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ
กระทรวง พม. ร่วมมือกับทุกฝ่ายในการขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วน 5 x 5 :ฝ่าวิกฤตประชากร โดยมีเป้าหมายหลักในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับทุกช่วงวัย เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุ ด้วยการ “สร้างพลังผู้สูงอายุ” มองเห็นคุณค่าของความสูงอายุและเปลี่ยนให้เป็นโอกาส เพราะผู้สูงอายุเป็นผู้เชี่ยวชาญชีวิต เป็นผู้มากประสบการณ์ ไม่ใช่ผู้รอรับการสงเคราะห์แต่ยังสามารถเป็นพลังของสังคม เป็นส่วนสำคัญของทางออกของการแก้ปัญหาวิกฤตทางประชากรของประเทศไทย

นายธนสุนทร กล่าวว่า กิจกรรมส่งต่อกำลังใจผู้สูงวัย 100 ปี เป็นการยกย่อง เชิดชูและให้กำลังใจแก่ผู้สูงอายุที่มีอายุครบ 100 ปีขึ้นไป ซึ่งนับเป็นแบบอย่างของการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพ เป็นแรงบันดาลใจแก่คนรุ่นหลังและส่งเสริมค่านิยมแห่งความกตัญญู ร่วมสร้างสังคมที่เอื้ออาทรต่อผู้สูงอายุ สร้างค่านิยมการเคารพ และมองเห็นคุณค่าของผู้สูงอายุ โดยกระทรวง พม. ร่วมกับภาคีเครือข่ายมอบของขวัญและสิ่งจำเป็นพื้นฐาน เพื่อการยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุ จำนวนรวมทั้งสิ้น 2,073 คน ทั่วประเทศ ซึ่งครอบคลุมผู้สูงอายุกลุ่มเปราะบางที่มีภาวะพึ่งพิง มีรายได้น้อยหรืออยู่ในสถานการณ์ทางสังคมที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ โดยกิจรรมอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เชี่ยวชาญด้านผู้สูงอายุ (อพมส.) และหน่วยงานในพื้นที่จะร่วมกันส่งต่อความห่วงใย ส่งมอบถุงกำลังใจจาก พม. ไปยังผู้สูงอายุทั่วประเทศ

นายธนสุนทร กล่าวว่า กิจกรรมวันนี้ เป็นความร่วมมือระหว่าง พม. กับข่ายภาคเอกชนและภาคประชาสังคมที่เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์กรภาคเอกชนและองค์กรเครือข่ายด้านผู้สูงอายุ จำนวน 25 องค์กร ภายในถุงผ้าเป็นผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคซึ่งสามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ได้แก่ ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เป็นต้น และได้รับความร่วมมือในการจัดส่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จากการรถไฟแห่งประเทศไทย และสายการบินนกแอร์ ในนามของกระทรวง พม. ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เห็นความสำคัญของการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ และมุ่งหวังว่ากิจกรรมในวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการสานพลังทุกภาคส่วนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุอย่างยั่งยืน

