“มาริษ” สายตรง เลขา UN – รมว.กต.ญี่ปุ่น ให้ใช้กลไกออตตาวาสอบกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิด, ขอมาเลย์-สิงคโปร์กดดันเขมรร่วมเก็บกู้ ไม่กังวล กพช.ยื่น UNSC ชี้ไม่มีหลักฐาน

314

กรุงเทพฯ, วันที่ 13 ส.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ กล่าวกรณีกำลังพลกองร้อยทหารพรานที่ 2610 รวม 7 นาย ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ขณะลาดตระเวนในพื้นที่ช่องจุบตะโมก จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวานนี้ (12) ว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากพฤติการณ์ที่ไม่สุจริตใจของฝ่ายกัมพูชา และขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรสหประชาชาติ และละเมิดพันธกรณีตามอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรือ อนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Convention) และกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ

หลังเกิดเหตุตนได้โทรศัพท์หารือกับ รมว.ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะเป็นประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ในเดือน ธ.ค. นี้ เพื่อขอให้ใช้กลไกในกรอบอนุสัญญาออตตาวาเพื่อไต่สวนการกระทำของกัมพูชา ซึ่งฝ่ายเลขาธิการฯ มีหนังสือตอบกลับมาด้วยแล้ว และในวันศุกร์นี้ (15 ส.ค.) จะมีการพูดคุยกับประเทศผู้บริจาคในกรอบอนุสัญญาอิตตาวา เพื่อให้เห็นการดำเนินการของกัมพูชา โดยเฉพาะในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย -กัมพูชา (General Border Committee) หรือ GBC ซึ่งไทยเสนอเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิด แต่กัมพูชากลับปฏิเสธ พร้อมยังได้โทรศัพท์พูดคุยกับ รมว.ต่างประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ เพื่อขอให้ใช้กลไกอาเซียนกดดันให้กัมพูชาร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด

นายมาริษ ยังย้ำว่า ในห้วงการเดินทางเยือนนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตนเอง ได้พบเลขาธิการสหประชาชาติ หรือเลขาธิการ UN และรัฐมนตรีของญี่ปุ่นแล้ว และได้ประท้วงท่าทีความไม่จริงใจของกัมพูชาต่อทั้ง 2 บุคคล และในโอกาสต่าง ๆ เสมอมา

ส่วนกรณี รมว.ต่างประเทศกัมพูชา ได้ส่งจดหมายร้องเรียน ต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC และเลขาธิการสหประชาชาติ (UN) เมื่อ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา กล่าวหาฝ่ายไทยละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา รวมถึงกฎหมายระหว่างประเทศ ข้อตกลงทวิภาคี และเงื่อนไขของการหยุดยิงที่ตกลงกันไว้อย่างต่อเนื่องนั้น นายมาริษ ยืนยันว่า ที่ผ่านมาฝ่ายกัมพูชาไม่มีหลักฐานใดที่แน่ชัด แต่ฝ่ายไทยมีข้อมูลชัดเจน เกี่ยวกับการยั่วยุของกัมพูชา และการวางทุ่นระเบิด และที่สุด UNSC ก็ไม่ได้มีการประชุมเรื่องนี้อีกครั้งแต่อย่างใด