เชียร์ “ภูมิธรรม” ลุยจัดหนัก หัวหน้าหน่วยราชการเกียร์ว่าง สร้างมิติใหม่เด้ง “นายอำเภอ” เซ่นผับ

1271

น่าจะเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้นในยุค นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง มีคำสั่งย้าย ว่าที่ร้อยตรีธีระพล โชคนำชัย นายอำเภอธัญบุรี ปทุมธานี ไปช่วยราชการที่วิทยาลัยการปกครอง กรมการปกครอง​ หลัง นายนิรัตน์ สั่งการให้เปิดปฏิบัติการ Zero Drug เข้าตรวจค้นสกินผับ ถนนรังสิต-นครนายก 21 อ.ธัญบุรี เวลา 00.45 น. วันที่ 8 สิงหาคม พบกลุ่มนักเที่ยวกว่า 380 คน กำลังดื่มกินและเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน เจ้าหน้าที่ตรวจปัสสาวะนักเที่ยวทั้งหมด พบปัสสาวะสีม่วงถึง 179 คน

เกิดขึ้นหลัง นายภูมิธรรม เป็นประธานเปิดกิจกรรมผนึกกำลัง “มหาดไทย-ตำรวจ-สาธารณสุข” กวาดล้างยาเสพติดเชิงรุกทุกพื้นที่ เพียงไม่กี่ชั่วโมง โดยประกาศอย่างหนักแน่นว่าประเทศไทยจะต้องปลอดยาเสพติดทั้งแผ่นดิน ภายใน 3 เดือนนี้ต้องเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมกำชับว่าผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ต้องร่วมกันบูรณาการทำงาน ประสานแลกเปลี่ยนข้อมูล

คำสั่งเด้งนายอำเภอ หลังจับกุมผับที่เปิดเกินเวลาหรือผับที่เป็นแหล่งให้นักท่องราตรีมั่วสุมเสพยา หรือบุกจับบ่อนการพนัน ไม่เคยเกิดขึ้นกับข้าราชการกระทรวงมหาดไทยเลย ที่เคยมีแค่สั่งย้ายปลัดอำเภอแห่งหนึ่งในนครศรีธรรมราช เหตุจับกุมบ่อนในพื้นที่เมื่อหลายปีก่อน แต่ไม่ได้ย้ายประจำ เพียงแค่ย้ายสลับอำเภอเท่านั้น

แต่ส่วนใหญ่กรรมจะไปตกที่ 5 เสือโรงพัก ครั้งนี้หนีไม่รอด 5 เสือโรงพักประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เจ้าของพื้นที่ถูกเซ่นสังเวยเด้งไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 1 (ศปก.ตร.ภ.1) และเกิดปรากฏการณ์ใหม่ในแวดวงสีกากีเช่นกัน ปกติเด้งแค่ 5 เสือโรงพัก แต่ครั้งนี้สั่งย้าย พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ไปช่วยราชการที่ ศปก.ตร.ภ.1 ในคำสั่งเดียวกับ 5 เสือโรงพัก

ปรากฏการณ์เด้งนายอำเภอและผู้การฯ คงอยู่เหนือความคาดหมายของบรรดาข้าราชการกระทรวงมหาดไทยและตำรวจไม่น้อย เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ยิ่งในช่วงที่เผด็จการทหารครองเมือง ข้าราชการประจำระดับสูงอยู่แบบลอยตัว

ยิ่งในกระทรวงมหาดไทยยุคที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา 1 ในแกนนำเผด็จการทหารนั่งกุมบังเหียนยาวนานกว่า 8 ปี รวมถึงยุคของ นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นั่งบริหารอยู่ปีกว่า ข้าราชการระดับสูงของกระทรวงคลองหลอดขาดการทำงานเชิงรุก นั่งรอฟังคำสั่งเจ้ากระทรวงเพียงอย่างเดียว

อย่างกรณีน้ำท่วมจังหวัดเชียงราย นายอนุทิน ไปตรวจพื้นที่ กลับไม่พบผู้ว่าฯ เกิดอาการฉุนเฉียวประกาศลั่นจะตั้งกรรมการสอบสวน แม้ผู้ว่าฯ คนดังกล่าวจะเหลืออายุราชการอีก 1 เดือน จะเกษียณอายุ พอกลับกรุงเทพฯ กลับไร้คำสั่งตั้งกรรมการสอบสวน มีแต่คำแก้ตัวข้างๆ คูๆ ที่ชาวบ้านฟังแล้วรู้สึกระอา

ครั้น นายภูมิธรรม มานั่งแทน ปัญหาที่ประชาชนรู้สึกว่าเลือกปฏิบัติอย่างกรณียึดคืนเขากระโดง ที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย จ.บุรีรัมย์ แม้แต่ยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้นำเผด็จการทหาร มาตรา 44 ให้อำนาจเต็ม ยังไม่กล้าฮือ แต่นายภูมิธรรม สั่งดำเนินการทันที โดยให้อธิบดีกรมที่ดินคนใหม่มาแทนคนเก่าที่ถูกเด้งไป เข้าจัดการ

ซึ่งเป็นการแสดงความกล้าของนายภูมิธรรม แต่คอการเมืองมองว่าเป็นแค่เกมการเมือง ที่ต้องการจัดการกับแกนนำพรรคภูมิใจไทย นักวิจารณ์การเมืองคาดเดาว่า นายภูมิธรรม คงแสดงอิทธิฤทธิ์ได้เพียงแค่นี้ แต่ผลไม่ได้เป็นไปตามที่คาดเดา

เพราะทันทีที่ ส.ส. พรรคภูมิใจไทย ตั้งกระทู้ถามสดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่ามีเสียงบ่นจากผู้ว่าฯ อุบลราชธานี ว่าเบิกงบประมาณช่วยผู้ประสบภัยจากการสู้รบระหว่างไทยกับเขมรยาก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ตอบกระทู้สด ต่อสายถึงผู้ว่าฯ อุบลทันที ทางผู้ว่าฯ ตอบว่าเบิกได้ทันที ภายหลังกลับมีข้อมูลว่าผู้ว่าฯ อุบลฯ เบิกไปเพียงห้าหมื่นกว่าบาทจากงบฯ 100 ล้านบาท ขณะที่บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และสุรินทร์ เบิกไปแล้วหลายสิบล้านบาท พอข้อเท็จจริงปรากฏ นายภูมิธรรม สั่งเด้งผู้ว่าฯ อุบลฯ เก็บกรุทันที

การบริหารจัดการแบบเฉียบขาดของนายภูมิธรรม “จอมมารน้อย” เชื่อว่ามาถูกทางแล้ว เพราะทุกปัญหาในพื้นที่ ข้าราชการทุกกระทรวงล้วนรับรู้ปัญหาแต่ไม่จัดการ ยิ่งผู้ว่าฯ และผู้การฯ จังหวัด ในฐานะผู้นำที่มีอำนาจเต็ม มีกลไกให้ขับเคลื่อนจำนวนมาก ย่อมที่จะรู้ปัญหาต่างๆ ที่ชาวบ้านต้องเผชิญเป็นอย่างดี แต่ไม่เคยทำงานเชิงรุกอย่างจริงจัง จึงไม่แปลกที่ยาเสพติดแพร่ระบาดทุกหัวระแหง แหล่งสถานบันเทิง บ่อนการพนันผุดเต็มเมือง ปัญหาอาชญากรรมเกิดขึ้นเกือบทุกซอกทุกซอย

จึงขอเชียร์ นายภูมิธรรม เดินหน้าจัดหนักกับข้าราชการสันหลังยาว ทั้งฝ่ายปกครองและตำรวจ แบบไม่ต้องกังวลว่าเมื่อย้ายพ่อเมืองหรือผู้การฯ จังหวัดแล้วจะไม่มีคนทำงาน ขอการันตีว่ามีรองผู้ว่าฯ หรือรองผู้การฯ รอคิวที่จะเข้าทำงานแทนจำนวนมาก

ถ้า นายภูมิธรรม ยังลุยจัดหนักกับหัวหน่วยราชการที่ยังเกียร์ว่างอย่างสม่ำเสมอ รับรองว่านโยบายให้ประเทศไทยปลอดยาเสพติดภายใน 3 เดือน จะเห็นผลอย่างแน่นอน!!!