“ภูมิธรรม” นำคณะ ให้กำลังใจ ชรบ.-ปชช. พนมดงรัก เตรียมเสนอค่าตอบแทนให้ ชรบ.

667

สุรินทร์, วันที่ 9 ส.ค.  เวลา 13.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เดินทางไปให้กำลังใจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมมอบชุดเครื่องแบบให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และมอบถุงยังชีพให้กับประชาชน โดยมี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ นางสาวจิราพร สินธุไพร รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นางสุดฤทัย เลิศเกษม อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ร่วมคณะ

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ชีวิตของคนไทยทุกคนต้องได้รับการปกป้องและคุ้มครองอย่างปลอดภัยสูงที่สุด ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน และพร้อมสนับสนุนทุกภารกิจให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และทุกคนที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในยามที่ทุกคนที่ต้องประสบกับสถานการณ์ความยากลำบากที่เกิดขึ้น เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัย และสามารถกลับมาดำรงชีวิตได้อย่างปกติให้เร็วที่สุด

“โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้อง ชรบ. ได้ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายด้วยความเสียสละโดยไม่มีค่าตอบแทนใด ถือเป็นเกียรติยศต่อชีวิตและเป็นบุญคุณของประเทศที่พี่น้องประชาชนช่วยกันทำงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทยในการรับผิดชอบพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังรวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่ได้ให้ความเอาใจใส่ชีวิตพี่น้องประชาชนเป็นหัวใจสำคัญตามที่รัฐบาลได้สั่งการ และในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์หน้า ตนจะเสนอเรื่องค่าตอบแทน ชรบ. ผู้ปฏิบัติงานในเหตุการณ์นี้เข้าที่ประชุม โดยกรณีปฏิบัติงาน 6-12 ชั่วโมงได้รับค่าตอบแทนคนละ 120 บาทต่อวัน ถ้าเกิน 12 ชั่วโมง 240 บาทต่อวัน ด้วยความห่วงใยและซาบซึ้งในความเสียสละของทุกท่าน เราจะดูแลทุกท่านอย่างดีที่สุด และขณะนี้หน้าที่พวกเรายังไม่สิ้นสุด เราต้องทำงานอย่างแข็งขันและเต็มที่ในการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน” นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีลูกระเบิดอีกหลายลูกที่ยังไม่ได้รับการเก็บกู้ จึงขอให้ประชาชนติดตาม และเชื่อฟังข้อมูลข่าวสารของฝ่ายความมั่นคง เพื่อความปลอดภัยของพวกเราทุกคน และเพื่อการบรรเทาความเดือดร้อน รัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทย งดเว้นการเก็บค่าน้ำและค่าไฟฟ้าบ้านเรือนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรวมถึงศูนย์พักพิงทุกแห่ง เป็นเวลา 2 เดือน คือ กรกฎาคมและสิงหาคม 2568 พร้อมทั้งกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้เร่ง เบิกจ่ายเงินค่าเยียวยาด้านต่าง ๆ ให้กับพี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด

“หลังจากนี้เป็นเรื่องการดูแลให้กำลังใจเยียวยากัน ถ้าหากว่ามีอะไรที่อยู่นอกเหนือสิ่งที่เราได้คุยหารือกัน เราก็ต้องช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ เพราะเรายึดมั่นในอธิปไตยของชาติ ความรู้สึกและปัญหาของพี่น้องประชาชนเป็นหัวใจที่สำคัญของการร่วมกันแก้ปัญหาด้วยความเอาจริงเอาจัง และผมขอเป็นกำลังใจและขอบคุณคุณพี่น้องประชาชนในพื้นพื้นที่ทุกคนที่อดทนและเสียสละในสถานการณ์ที่ลำบากนี้ ขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ได้ทำหน้าที่พิทักษ์ส่วนหลัง และดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถและที่สำคัญผมต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายความมันคงทุกคนที่ได้ต่อสู้และร่วมกันปกป้องผืนแผ่นดินไทยของเรา เราจะอยู่เคียงข้างกันเพื่อรักษาไว้ซึ่งผืนแผ่นดินไทยอันเป็นที่รักยิ่ง และเพื่อความสงบสุขปลอดภัยของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน” นายภูมิธรรม กล่าว

พื้นที่อำเภอพนมดงรักได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ยิงจากฝั่งกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 24-28 กรกฎาคม 68 ประชากรได้รับผลกระทบ 37,000 คน ใน 55 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 26 หลัง มีศูนย์พักพิงพื้นที่อำเภอเมืองสุรินทร์ อำเภอปราสาท 27 แห่ง โดยอำเภอได้จัดเวรยามชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน 660 นาย ทั้งกลางวันและกลางคืนดูแลทรัพย์สินของประชาชนและดูแลความปลอดภัยของประชาชนที่ยังไม่สามารถอพยพออกจากอำเภอพนมดงรักได้พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ไม่ให้บุคคลภายนอกพื้นที่เข้ามาในพื้นที่อำเภอพนมดงรัก ทั้งนี้ จากการสำรวจ มีกระสุนปืนใหญ่ตก 228 ลูก ที่ยังไม่แตก 10 ลูก ขณะนี้เก็บกู้ไปแล้ว 1 ลูก โดยชุด EOD จะได้ดำเนินการส่วนที่เหลือต่อไป

ก่อนหน้านี้ นายภูมิธรรม และคณะได้เดินทางไปโรงพยาบาลพนมดงรักเพื่อติดตามความเสียหายจากผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาภาย โดยมี พญ.วรวรรณ กอปรกิจงาม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ สรุปข้อมูลเหตุการณ์เมื่อวันที่ 24-25 ก.ค. 68 ทหารกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 ทำให้อาคารและบริเวณโรงพยาบาลได้รับความเสียหายมูลค่าความเสียหายประมาณ 45 ล้านบาท