ตำรวจCIB​ สกัดรถต้องสงสัย คนขับทิ้งรถกระโดดหนี ปล่อยรถพุ่งชนต้นไม้ ภายในพบต่างด้าวอัดมาเต็ม

417

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อินทรัตน์ ปัญญา ผกก.7 บก.ทล., พ.ต.ท.ฐิติวัสส์ แซมเขียว รอง ผกก.7​บก.ทล.,พ.ต.ท.ธนาคาร จันทร์กระจ่าง รอง ผกก.ช่วยฯ รอง ผกก.7 บก.ทล.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.วริศร มัจฉา สวญ.ส.ทล.3 กก.7 บก.ทล., พ.ต.ท.มนัสวี กะดะแซ​ สว.ส.ทล.3 กก.7 บก.ทล., ร.ต.อ.ปุณณรัตน์ มุสิกรักษ์ รอง สว.ส.ทล.3 กก.7 บก.ทล., ร.ต.ท.อภิชาติ แก่นคำ, ร.ต.ต.สมเจตน์ สุดทองคง, ร.ต.ต.ศุภกิตติ์ ปิ่นพรม รอง สว.(ป.) ส.ทล.3 กก.7 บก.ทล. พร้อมด้วยดจ้าหน้าที่​ส.ทล.3 กก.7 บก.ทล.

ร่วมกันจับกุม​ 1.นายหน่าย อายุ 36 ปี ผู้ขับขี่ กระทำความผิดฐาน “ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม โดยรู้ว่าคนต่างด้าวเหล่านั้น เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ตาม พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 64” 2. บุคคลต่างด้าว สัญชาติเมียนมา 24 ราย กระทำความผิดฐาน “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 81” พร้อมของกลาง รถยนต์เก๋งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รถตู้) ยี่ห้อ ฮุนได รุ่น H-1 สีดำ จำนวน 1 คัน, โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Redmi รุ่น 14 C สีดำ จำนวน 1 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Beyond สีขาว จำนวน 1 เครื่อง

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง หน่วยบริการประชาชน ตำรวจทางหลวงรัตภูมิ จ.สงขลา ได้ตั้งจุดสกัดหน้าหน่วยบริการฯ เนื่องจากได้รับแจ้งข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า มีรถยนต์ตู้ ยี่ห้อ ฮุนได ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวจากพื้นที่ จ.ราชบุรี เพื่อนำมาส่งให้กับนายหน้าในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ผ่านแดนไปยังประเทศมาเลเซีย จึงได้วางแผนพร้อมจัดชุดส่วนล่วงหน้าเฝ้าสังเกตรถเป้าหมายบริเวณ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง รอยต่อ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ขณะเฝ้าสังเกตการณ์ พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮุนได ซึ่งมีตำหนิจุดสังเกตพิเศษของรถตรงตามที่แหล่งข่าวแจ้งขับผ่านมา มุ่งหน้าไปยังจุดสกัด จึงได้สะกดรอยติดตาม เมื่อรถคันดังกล่าวมาถึงแยก อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ได้กลับรถย้อนกลับไปในทิศทางเดิม ในลักษณะผิดปกติ อาจจะทราบว่าเส้นทางด้านหน้ามีด่านตรวจ จึงได้ขับติดตามไปอย่างต่อเนื่องอย่างกระชันชิดพร้อมแจ้งประสานกำลังรถวิทยุสายตรวจตำรวจทางหลวงสกัดจับ

ต่อมาเมื่อรถคันดังกล่าวน่าจะรู้ตัวว่ามีรถขับติดตามมา จึงเร่งความเร็วหลบหนีเข้าไปยังพื้นที่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง เป็นระยะทางกว่า 50 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาในการติดตามจับกุมนานกว่า 40 นาที
จนกระทั่งถึงถนนภายในหมู่บ้าน หมู่ที่ 4 ต.แม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ซึ่งเป็นถนนแคบ ชุดจับกุมจึงได้ตัดสินใจสกัดรถคันดังกล่าว โดยขับรถปิดหัวปิดท้ายเพื่อไม่ให้รถคันดังกล่าวเคลื่อนที่ไปต่อ พร้อมให้สัญญาณเสียงจากรถวิทยุทำการหยุดรถ แต่รถคันดังกล่าวขัดขืน พร้อมกับขับส่ายไปมา น่าหวาดเสียว เพื่อพยายามหลบหนี ระหว่างนั้น นายหน่าย ผู้ขับขี่ ได้เปิดประตูรถกระโดดลงจากรถในขณะที่รถยังเคลื่อนที่อยู่แล้ววิ่งหลบหนียังสวนปาล์มของชาวบ้านในพื้นที่ ก่อนที่รถจะไหลลงข้างทางชนกับต้นไม้หน้าบ้านของชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนหนึ่งจึงได้ลงจากรถวิ่งไล่ติดตาม นายหน่าย ก่อนสามารถจับกุมตัวได้บริเวณร่องสวนปาล์ม ในสภาพนอนหมดแรงซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้า ห่างจากจุดที่ทิ้งรถประมาณ 2 กิโลเมตร จึงควบคุมตัวมาที่รถเพื่อนำการตรวจสอบอย่างละเอียด

จากการตรวจสอบรถคันดังกล่าว พบว่าภายในรถมีบุคคลต่างด้าว สัญชาติเมียนมา จำนวน 24 คน เป็นชาย จำนวน 22 คน หญิง จำนวน 2 คน นั่งอัดกันอยู่ภายในรถสภาพอิดโรย ส่วนตัวรถด้านหน้าได้รับความเสียหายและกระจังรถด้านหลังหลุดออกจากการไหลไปพุ่งชนต้นไม้ จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวมาทำบันทึกส่ง​สภ.ตะโหมด จ.พัทลุง ดำเนินคดีตามกฎหมาย

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การเพิ่มเติมว่า
ได้รับว่าจ้างให้ขับรถมาจาก จ.ราชบุรี เพื่อไปส่งที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยได้รับว่าจ้างเป็นเงิน จำนวน 3,500 บาท และรับว่าเพิ่งรับจ้างขนบุคคลต่างด้าวเป็นครั้งแรก

“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชนให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง​ ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”