หน้าแรกการเมืองก.ล.ต. กล่าวโทษผู้กระทำผิด 3 ราย ต่อ บก.ปอศ. เหตุซื้อ-ขายหลักทรัพย์ก่อนทำรายการซื้อขายของกองทุน

ก.ล.ต. กล่าวโทษผู้กระทำผิด 3 ราย ต่อ บก.ปอศ. เหตุซื้อ-ขายหลักทรัพย์ก่อนทำรายการซื้อขายของกองทุน

วันพุธที่ 6 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวไทยแทบลอยด์ รายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฝ่ายสื่อสารองค์กร ได้มีหนังสือชี้แจงถึงกรณี ก.ล.ต. กล่าวโทษผู้กระทำความผิด 3 ราย ต่อ บก.ปอศ. กรณีซื้อหรือขายหลักทรัพย์ก่อนทำรายการซื้อขายขยของกองทุน โดยใช้ข้อมูลการลงทุนของกองทุน ก.ล.ต. กล่าวโทษผู้กระทำความผิด 3 ราย ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) กรณีซื้อหรือขายหลักทรัพย์ก่อนทำรายการซื้อขายของกองทุน โดยใช้ข้อมูลการลงทุนของกองทน และรายงานการดำเนินการต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อเดือนมิถุนายน 2567 และตรวจสอบเพิ่มเติมพบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่ทำให้เชื่อได้ว่าผู้กระทำความผิดรวม 3 ราย ได้แก่ นางสาวปิยาพัชร อุดมรัตน์ นายวิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ และนางนาวินี อุดมรัตน์ ได้ร่วมกันกระทำการเพื่อตนเองหรือบุคคลอื่น ในประการที่น่าจะทำให้กองทุนรวมเสียประโยชน์จากการตรวจสอบ นางสาวปิยาพัชร ในฐานะพนักงานห้องค้าหลักทรัพย์ (dealer) ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทน(ขณะกระทำผิดสังกัด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง จำกัด) ซึ่งเป็นบุคคคลที่รู้หรือครอบครองข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ของกองทุนรวม ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับคำสั่งของกองทุน รวมที่ตนเป็นผู้ส่งคำสั่งซื้อขายของกองทุนรวมดังกล่าวให้แก่นายวิสุทธิ์ และนายวิสุทธิ์ได้อาศัยข้อมูลดังกล่าว ส่งคำสั่งซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ก่อนที่นางสาวปิยาพัชรจะส่งคำสั่งซื้อหรือขายให้แก่บัญชีชื่อขายหลักทรัพย์ของกองทุนรวมจำนวนหลายรายการ ในช่วงปี 2566 – 2567 โดยมีนางนาวินีร่วมเกี่ยวข้องกับเงินในการกระทำดังกล่าวการกระทำของบุคคลดังกล่าวข้างต้น เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 244/2 ประกอบมาตรา 244/1 และมาตรา 315 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ) แล้วแต่กรณี ก.ล.ต. จึงกล่าวโทษบุคคลทั้ง 3 ราย ต่อ บก.ปอศ. เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. ได้รายงานการดำเนินการดังกล่าวต่อ ปปง. เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป เนื่องจากความผิดดังกล่าวเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ภายหลังการกล่าวโทษของ ก.ล.ต. กระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาต่อไปเป็นการสอบสวนของพนักงานสอบสวน การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ และการพิจารณาของศาลยุติธรรม ตามลำดับ โดย ก.ล.ต. จะติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดี และจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ เพื่อสนับสนุนการบังคับไช้กฎหมาย ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ในกระบวนการภายหลัง ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษแล้ว

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img