รัฐบาลส่ง 7 รมต. ร่วม สดุดีทหารกล้า-อาลัยพลเรือน พร้อมมอบเงินเยียวยา 1 ล้าน ยันดูแลครอบครัวเต็มที่

510

กรุงเทพฯ, วันที่ 4 สิงหาคม – นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานเพลิงศพ เป็นกรณีพิเศษ แก่ทหารและพลเรือนประชาชนที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา โดยรัฐบาลได้มอบหมายรัฐมนตรีเข้าร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพของทหาร-พลเรือน ดังนี้

1. นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมงาน ณ จังหวัดขอนแก่น

2. นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมงาน ณ จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดเลย

3. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมงาน  ณ จังหวัดยโสธร

4. นางสาวนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมงาน ณ จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดอุบลราชธานี

5. นางสาวสุดาวรรณ ศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เข้าร่วมงาน ณ จังหวัดนครราชสีมา

6. นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมงาน ณ จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดหนองคาย

7. นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมงาน ณ จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดศรีสะเกษ

นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวน 1,000,000 บาทต่อราย จากกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ให้แก่ครอบครัวทหารและประชาชนที่เสียชีวิต เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นและสร้างหลักประกันให้กับครอบครัวที่ต้องสูญเสียเสาหลัก

น.ส.จิราพร กล่าวว่า ที่ผ่านมา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้มอบหมายให้รัฐมนตรีลงพื้นที่ใน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจผู้บาดเจ็บ และประชาชนผู้อพยพ รวมถึงเพื่อบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานในพื้นที่และส่วนกลางอีกด้วย

รัฐบาลขอสดุดีทหารกล้าทุกนายที่ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของประเทศและคุ้มครองประชาชนให้ปลอดภัย ขอไว้อาลัยต่อการจากไปของพลเรือนผู้บริสุทธิ์ โดยรัฐบาลยืนยันว่าจะดูแลสิทธิประโยชน์ สวัสดิการ และความเป็นอยู่ของครอบครัวทหารและพลเรือนที่เสียชีวิตอย่างเต็มที่ เพื่อให้ครอบครัวมีความมั่นคงและมีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป