ตำรวจCIB จับกุมอะโวคาโดอันตราย ไม่ผ่านการกักกันโรคพืช ไม่มีใบรับรองสุขภาพอนามัยพืช

325

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง ภายใต้การอำนวยการของ
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว
รอง ผบช.ก., พล.ต.ต. คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง.ผบก.ป. ช่วยราชการ
รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.ธัช โพธิ์สุวรรณ ผกก.1 บก.ทล.,
พ.ต.ท.นาวิน คงสว่าง, พ.ต.ท.มีเดีย ปฐมพร-วิวัฒน์ รอง.ผกก.1 บก.ทล.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.สรศักดิ์ แสงจันทร์ สวญ.ส.ทล.2 กก.1 บก.ทล., ร.ต.อ.ปรัชญานนท์ ยงยิ่ง รอง สว.ส.ทล.2 กก.1 บก.ทล., ร.ต.ต.อรรถพล สมหวัง, ร.ต.ต.ณรงค์ สายหยุด รอง สว.(ป) ส.ทล.2 กก.1 บก.ทล. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.2 กก.1 บก.ทล.

ร่วมกันจับกุม นายนันทวัฒน์ฯ อายุ 42 ปี ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ไม่มีใบอนุญาตนำเข้าสิ่งของต้องห้าม(อะโวคาโด) เข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อการค้า (พ.ก.2-1), ไม่มีใบรับรองสุขภาพอนามัยพืช (Phytosanitary certrificate) จากประเทศผู้ส่งออก ตาม ม.8 (2) ม.9 ม.10 ประกอบ ม.21 พ.ร.บ.กักพืช พ.ศ. 2507 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม สิ่งต้องห้ามดังกล่าวจะนำเข้าได้ต้องผ่านการวิเคราะห์ความเสี่ยงศัตรูพืชก่อนและต้องปฎิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กรมวิชาการเกษตรประกาศกำหนด อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 ประกอบมาตรา 10 แห่ง พ.ร.บ.กักพืช พ.ศ. 2507)”

ของกลาง ผลอะโวคาโดสดบรรจุในตะกร้าพลาสติกสีดำ จำนวน 110 ตะกร้า น้ำหนักรวมตะกร้า ประมาณ 2,750 กิโลกรัม รถยนต์กระบะ สีขาว จำนวน 1 คัน พร้อมกุญแจรถคันดังกล่าว จำนวน 1 ดอก

สถานที่จับกุม บริเวณริมถนนมิตรภาพ (ทล.2) ขาเข้า กทม. กม.4 ต.ตลิ่งชัน อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากตำรวจทางหลวงได้ตรวจสอบการกระทำความผิดบนถนนหลวงภายในเขตรับผิดชอบ ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว ได้รับแจ้งว่า มีรถยนต์กระบะสีขาวบรรทุกผลไม้ (อะโวคาโดสด) ซึ่งนำมาจาก อ.เมืองมุกดาหาร โดยไม่ผ่านด่านกักกันพืช และด่านศุลกากรฯ ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิด
พ.ร.บ.กักพืช พ.ศ.2507 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.กักพืช(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2551 และประกาศกรมวิชาการเกษตรเรื่อง เงื่อนไขการนำเข้าผลอะโวกาโดสด, พ.ร.บ.ศุลกากรฯ และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว จึงได้ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบและเฝ้าซุ่มดูอยู่บริเวณถนนมิตรภาพ
กม.11 ต่างระดับแก่งคอย-บ้านนา ต.แก่งคอย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ต่อมาพบรถยนต์กระบะสีขาวคันดังกล่าวมีลักษณะตรงกันกับที่ได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขับรถติดตามจนถึงถนนมิตรภาพ ขาเข้า กทม. บริเวณ กม.ที่ 4 ต.ตลิ่งชัน อ.เมือง จ.สระบุรี จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจให้สัญญาญหยุดรถ เมื่อหยุดรถได้แล้ว ตรวจสอบพบผู้ขับขี่ชื่อ นายนันทวัฒน์ฯ อายุ 42 ปี แสดงตัวเป็นผู้ครอบครองรถคันดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตนและได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ นายนันทวัฒน์ฯ ดูจนเป็นที่พอใจแล้ว จึงแจ้งความประสงค์ขอตรวจสอบสินค้าที่บรรทุกมา พร้อมเอกสารประกอบการขนส่งสินค้าดังกล่าว จากการตรวจสอบพบมีผลอะโวคาโดสดอยู่ในตะกร้าสีดำซึ่งบรรทุกอยู่บนหลังรถยนต์กระบะจำนวน 110 ตะกร้า น้ำหนักรวมตะกร้าประมาณ 2,750 กิโลกรัม โดยไม่มีเอกสารผ่านพิธีการศุลกากร และไม่มีเอกสารผ่านด่านกักกันพืช
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้นายนันทวัฒน์ฯ นำรถมาตรวจสอบโดยละเอียดที่สถานีตำรวจทางหลวงสระบุรี
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวข้างต้น ให้นายนันทวัฒน์ฯ ทราบซึ่ง นายนันทวัฒน์ฯ
ทราบและเข้าใจข้อกล่าวหาดีแล้ว จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี ภ.จว.สระบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ให้การว่า ได้รับจ้างขนผลอะโวคาโด รับจาก จ.มุกดาหาร ไปส่งที่ จ.ปทุมธานี ผู้ว่าจ้างชื่อนายสุรนาถฯ ชื่อเล่นว่า อั้ม โดยติดต่อผ่านแอปพลิเคชัน Messenger ว่าจ้างขนส่งในราคา 5,800 บาท ซึ่งจะได้รับเงินค่าขนส่งเมื่อส่งสินค้าเสร็จแล้ว โดยนายสุรนาถฯ ได้โทรนัดหมายจุดที่จะไปรับผลอะโวคาโด

เมื่อได้จุดนัดหมายนายนันทวัฒน์ฯ ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าว ไปรอรับผลอะโวคาโดที่บ้านนาติ้ว ต.บางทรายใหญ่ อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร เมื่อไปถึง
เวลาประมาณ 00.30 น. พบรถยนต์กระบะ จำนวน 2 คัน ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนทั้งสองคัน
และมีคนงานทำหน้าที่ขนย้ายผลอะโวคาโด จำนวน 7 คน ช่วยกันย้ายผลอะโวคาโดมาใส่ที่รถกระบะ
ของนายนันทวัฒน์ฯ เมื่อขนย้ายเสร็จแล้ว นายนนทวัฒน์ฯ ขับรถยนต์บรรทุกขนอะโวคาโดดังกล่าว
เพื่อจะนำไปส่งที่ตลาดในพื้นที่ ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยตลอดการขนส่งตั้งแต่ จ.นครพนม ถึง จ.สระบุรี นายนันทวัฒน์ฯ ไม่ได้ผ่านด่านกักพืชแห่งใดเลย จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบ