กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.กึกก้อง ดิศวัฒน์ ผกก.8 บก.ทล., พ.ต.ท.วินัย ธนะโชติ รอง ผกก.8 บก.ทล., พ.ต.ท.ทัตพร เลขะวัฒนพงษ์ สวญ.ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล., พ.ต.ท.ชยธร ถวิลเพชรสกุล สว.ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ร.ต.ท.อานนท์ ชีนิมิตร รอง สว.(สอบสวน) ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล.,ร.ต.ต.เปรมวิศุทธ์ พัฒนอติพงศ์, จ.ส.ต.โสนิล จันทร์พลงาม และ จ.ส.ต.ศรัณย์ อู่ทรัพย์ ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล.
ร่วมกันจับกุม ทั้งหมด 2 ราย นางสาวสุมิตตาฯ หรือใหม่ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 3 หมายจับ ดังนี้ หมายจับที่ 107/2565 ลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2565 โดยกล่าวหากระทำผิดฐาน “ประมวลกฎหมาย
ยาเสพติด”,หมายจับที่ 168/2565 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2565 โดยกล่าวหากระทำผิดฐาน “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต”,หมายจับที่ 297/2565 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 โดยกล่าวหากระทำผิดฐาน “จำหน่ายโดยการมีไว้ เพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ โดยไม่ได้รับอนุญาตโดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า “จำหน่ายโดยการขายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน พยายามจำหน่ายโดยการขายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
นายเอกราษฎร์ฯ หรือเอก อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 3 หมายจับ ดังนี้ หมายจับที่ 141/2565 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2565 โดยกล่าวหากระทำผิดฐาน “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับใบอนุญาต” หมายจับที่ 188/2565 ลงวันที่ 2 สิงหาคม 2565 โดยกล่าวหากระทำผิดฐาน “ความผิดประมวลกฎหมายยาเสพติด” หมายจับที่ 24/2565 ลงวันที่ 18 มกราคม 2565 โดยกล่าวหากระทำผิดฐาน “มีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนกฎหมาย”
พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก น.ส.สุมิตตาฯ และนายเอกราษฎร์ฯ ทั้ง 2 คน เป็นผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีประวัติโชกโชน หลังจากเริ่มมีการปราบปรามอย่างหนัก ทั้งคู่จึงได้พากันหนีข้ามไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ผันตัวมาเป็นระดับสั่งการ กระทั่งหักหลังกันในกลุ่มจึงหนีกลับข้ามมาฝั่งไทย ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 8 (ส.ทล.2 กก.8) ได้ร่วมกันทำการสืบสวน
จนทราบว่า หลบหนีข้ามกลับมาฝั่งไทยและมาพักแฝงตัวอยู่บริเวณในพื้นที่ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก จากนั้น
ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ สืบสวนหาข่าว เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองย้ายที่อยู่บ่อยครั้ง กระทั่งหลบหนีมาพักอาศัยตัวในบริเวณ อ.เมืองพิษณุโลก กระทั่งถูกชุดสืบสวนติดตามจับกุมตัวได้ ทั้งคู่ให้การรับสารภาพ ส่งตัวนำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชนให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้างทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”
