“รมช.อัครา” แนะชาวสวนลำไยขึ้นทะเบียนเกษตรกร รอมาตรการช่วยเหลือไร่ละ 1,400 บาท แจ้งข่าวดีพร้อมเตรียมสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยไคร้ ให้ชาวพะเยามีน้ำใช้อย่างยั่งยืน

839

พะเยา, วันที่ 26 กรกฎาคม – นายอัครา พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะผู้บริหาร เดินทางมาที่ วัดศรีไฮคำ ต.เชียงแรง อ.ภูซาง จ.พะเยา และองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำแวน อ.เชียงคำ จ.พะเยา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ และรับฟังปัญหาจากเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย และผลผลิตลำไยออกสู่ตลาดจำนวนมากส่งผลให้ราคาตกต่ำ โดยนายอัคราได้เชิญชวนเกษตรกรผู้ปลูกลำไยให้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับสำนักงานเกษตรตำบล สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน เพื่อรอรับความช่วยเหลือจากโครงการพัฒนาสวนลำไยคุณภาพ ตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไยในฤดูปี 2568 ไร่ละ 1,400 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ต่อครัวเรือน ที่กำลังจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา ซึ่งจะเป็นการบรรเทาผลกระทบจากผลผลิตที่กำลังออกสู่ตลาดจำนวนมาก อีกทั้งยังแจ้งข่าวดีแก่เกษตรกรผู้ปลูกลำไยว่ากระทรวงเกษตรฯได้ส่งทูตเกษตรไปเจรจาเปิดตลาดการค้าลำไยในต่างประเทศเพิ่มเติม เพื่อสร้างพื้นที่จำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรของไทยที่จะเป็นการช่วยให้พี่น้องเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

จากนั้น รมช.เกษตรและสหกรณ์ และคณะ ได้เดินทางต่อไปยังโรงเรียนบ้านปางมดแดง ต.อ่างทอง อ.เชียงคำ และเทศบาลตำบลทุ่งรวงทอง อ.จุน เพื่อรับฟังปัญหาเกษตรกรในพื้นที่ และมอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบอุทกภัย ได้แก่ 1) ขุดลอกทรายลำน้ำอิง และนำทรายมาทำถนนสำหรับเข้าพื้นที่เกษตรกรรม 2) จัดหาพื้นที่สาธารณะประโยชน์สำหรับทำโครงการแก้มลิง 3) ขุดบ่อกักเก็บน้ำขนาดเล็ก พร้อมติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์และเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ สำหรับจัดส่งน้ำไปแปลงนาไว้ทำการเกษตรช่วงฤดูแล้ง 4) จัดแปลงนาเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยให้สามารถเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเพื่อการบริโภคและจำหน่ายเป็นการสร้างรายได้เพิ่มเติม 5) จัดหาเมล็ดพันธุ์ข้าวให้เกษตรกรปลูกในช่วงน้ำลด และ 6) จัดสอนและส่งอุปกรณ์การปลูกหม่อนเลี้ยงไหมให้กับผู้สูงอายุที่ต้องการมีรายได้เพิ่ม ซึ่งเป็นระบบการทำเกษตรกรรมแบบหมุนเวียน และช่วยให้เกษตรกรสามารถปรับตัวทันต่อสถานการณ์โลกแปรปรวน

โอกาสนี้ รมช.เกษตรฯ ยังได้แจ้งข่าวดีกับชาวพะเยาที่จะมีการก่อสร้างอ่างห้วยไคร้เพิ่มเติม ซึ่งกรมชลประทานมีการสำรวจและออกแบบ ขนาด 200 ไร่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุญาตก่อสร้างคาดว่าสามารถดำเนินการได้ในปี 70 เพื่อให้เกษตรกรในจังหวัดพะเยามีพื้นที่รองรับน้ำและกักเก็บไว้ใช้ได้ในฤดูแล้ง พร้อมกันนี้นายอัครา และคณะ มอบถุงยังชีพ จำนวน 1,600 ถุง แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบในเขตอำเภอภูซาง อำเภอเชียงคำ และอำเภอจุน จังหวัดพะเยา เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ และบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในเบื้องต้นอีกด้วย