“ทรัมป์” โทรกดดันผู้นำ ไทย-กัมพูชา หากต้องการเจรจาภาษี ต้องหยุดยิงทันที “ภูมิธรรม” แจงเห็นด้วย แต่ขอคุยทวิภาคี ฮุน มาเน็ต เด้งรับ มอบ รองนายกฯ คุย

469

สหรัฐอเมริกา, วันที่ 26 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกาโพสต์ข้อความทางสื่อโซเชียล Truth Social ถึงสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา โดยระบุว่าได้พูดคุยกับ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา และภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งทั้ง 2 ฝ่าย ยินยอมที่เจรจากันเพื่อหยุดยิง หลังเกิดการปะทะกันตามแนวชายแดนมาตั้งแต่วันเช้าตรู่วันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยทรัมป์กล่าวว่าเขาได้เริ่มจากโทรศัพท์พูดคุยกับผู้นำกัมพูชาก่อน จากนั้นจึงได้โทรศัพท์ถึงนายภูมิธรรม เพื่อร้องขอให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิง และยุติสงครามที่กำลังปะทุ ซึ่งเขามีการสนทนาที่ดีมากกับทั้งคูทั้งนี้ทรัมป์ได้ยกประเด็นร้อนเรื่องการเจรจาภาษีทางการค้าขึ้นมาเป็นเครื่องมือในการสนทนากับไทยและกัมพูชา โดยระบุด้วยว่าสหรัฐ “ไม่ต้องการทำข้อตกลงใดๆ กับประเทศใดประเทศหนึ่งหากพวกเขากำลังทำสงครามกัน”

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่าหลังจากที่ได้คุยกับนายภูมิธรรม และทราบว่าทางไทยต้องการให้มีการหยุดยิงโดยทันที และต้องการสันติภาพ เขาจะติดต่อกลับไปหาฮุน มาเนตเพื่อบอกข้อความของฝั่งไทยให้ทราบ “หลังจากได้พูดคุยกับทั้งสองฝ่ายแล้ว การหยุดยิง สันติภาพ และความมั่งคั่ง ดูเหมือนจะเป็นหนทางที่เป็นธรรมชาติ เราจะได้เห็นกันในเร็ว ๆ นี้!”

จากนั้นทรัมป์ได้โพสต์ความคืบหน้าหลังจากติดต่อกับฮุน มาเนตว่า ทั้งสองฝ่ายกำลังมองหาการหยุดยิงและสันติภาพโดยทันที พวกเขายังต้องการกลับไปที่โต๊ะการค้ากับสหรัฐอเมริกา ซึ่งเรามองว่าไม่เหมาะสมที่จะทำจนกว่าการสู้รบจะยุติลง พวกเขาตกลงที่จะพบกันทันที และเร่งดำเนินการเพื่อบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และในที่สุดคือ สันติภาพ!” ทรัมป์ระบุ ก่อนทิ้งท้ายว่าเมื่อทุกอย่างจบลงและสันติภาพมาถึง เขาตั้งตารอที่จะได้สรุปข้อตกลงทางการค้ากับทั้งไทยและกัมพูชา

ต่อมาเช้ามืดวันที่ 27 นายภูมิธรรม ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่าเพิ่งได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที จึงได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง อย่างไรก็ดี ฝ่ายไทยประสงค์ที่จะเห็นความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว จึงขอให้ฝ่ายสหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดไปยังฝ่ายกัมพูชาว่า ฝ่ายไทยประสงค์ที่มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด โดยกัมพูชาต้องแสดงความจริงจังและจริงใจให้มั่นใจ เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนสำหรับการหยุดยิง และนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนต่อไป

จากนั้น ฮุน มาเน็ต ได้โพสต์ ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ยอมรับว่าได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวันที่ 26 ซึ่งทรัมป์แสดงความปรารถนาที่ไม่อยากจะเห็นสงครามหรือการสู้รบเพราะจะนำไปสู่การสูญเสียของทั้ง 2 ฝ่าย ดังนั้นเขาจึงเสนอตัวเป็นคนกลางเพื่อจะยุติความขัดแย้งในหลายประเทศทั่วโลก

“ประเด็นการสู้รบระหว่างทหารกัมพูชา-ไทย ปรธานาธิบดีทรัมป์ต้องการจะเห็นการหยุดยิงและสัมติภาพระหว่างสองประเทศโดยทันที ข้าพเจ้าจึงตอบรับว่ากัมพูชาเห็นด้วยกับข้อเสนอให้หยุดยิงอย่างไม่มีเงื่อนไขระหว่างกองทัพทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งในความเป็นจริง ก่อนหน้านี้ข้าพเจ้าได้แสดงจุดยินนี้ต่อ ฯพณฯ อันวาร์ อิบรอฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานอาเซียนคนปัจจุบัน เมื่อวันที่ 24 ที่ผ่านมา”

ผู้นำกัมพูชาระบุว่า ทรัมป์แจ้งข่าวว่าฝ่ายไทยเห็นด้วยกับข้อเสนอในการหยุดยิงซึ่งเป็นข่าวดีของประชาชนและทหารทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งเขาหวังว่าไทยจะไม่กลับคำเหมือนที่เคยทำกับนายกฯ อันวาร์ เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ นายปรัก โสคณ รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศและความร่วมมือนานาชาติ เป็นตัวแทนไปหารือกับนายมาร์โก รูบิโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ รวมทั้งประสานงานกับ รมว.ต่างประเทศของไทยเพื่อนำความเห็นชอบในหลักการนี้ไปสู่การปฏิบัติโดยเร็ว เพื่อยุติความสูญเสียของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งต้องขอขอบคุณประธานาธิบดีสหรัฐฯ สำหรับความริเริ่มในการเป็นคนกลางในครั้งนี้ ที่จะช่วยรักษาชีวิตของทหารและพลเรือนของกัมพูชาและไทยจำนวนมาก รวมทั้งจะทำให้ผู้ประสบภัยนับแสนได้กลับบ้าน ใช้ชีวิตที่ปกติและสงบสุขต่อไป