กรุงเทพฯ วันที่ 24 ก.ค. – รัฐบาลเปิด ไทม์ไลน์สถานการณ์ไทย-กัมพูชาวันนี้ โดยระบุว่าสถานการณ์ความรุนแรงเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 07.35 น.หลังจากกัมพูชาส่งอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนบินวนบริเวณปราสาทตาเมือนธม พร้อมส่งกำลังพล 6 นายติดอาวุธเข้ามาบริเวณใกล้แนวลวดหนามหน้าฐานปฏิบัติการไทย ทำให้ทหารไทยต้องตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรง ต่อมาเวลา 08.20 น.กัมพูชาเริ่มเปิดฉากยิงฐานปฏิบัติการไทย ก่อนที่จะใช้อาวุธยิงสนับสนุนใส่กลุ่มปราสาทตาเมือนธม
เวลา 08:55 น. มีการปะทะตลอดหน้าแนวทั้งอาวุธปืนเล็ก และอาวุธหนักบริเวณปราสาทตาเมือน ทำให้ทหารไทยซึ่งประจำการอยู่จุดดังกล่าวบาดเจ็บ 1 นาย เวลา 09:11 น. กัมพูชาใช้อาวุธยิงสนับสนุนระดมยิงทางทิศตะวันตกกลุ่มปราสาทตาเมือน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย จากนั้นเวลา 09:20 น. พบปืนใหญ่กัมพูชาปรากฏอยู่บริเวณวัดแก้วฝั่งตรงข้ามอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ
เวลา 09.30 น.กัมพูชาใช้จรวด BM -21 ยิงจากฐานยิงเขาแหลมทางทิศใต้ช่องจอมตกฝั่งไทยโดยทหารไทยตอบโต้ด้วยปืนครก 120 มม. อีก 12 นาทีถัดมากัมพูชายิงจรวด BM -21 ใส่ศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดนอำเภอกาบเชิงจังหวัดสุรินทร์ทางการไทยจึงสั่งอพยพประชาชนทันที หลังจากนั้นเพียง 5 นาทีก็เกิดการปะทะทุกพื้นที่ชายแดนจังหวัดสุรินทร์ อุบลราชธานี และศรีสะเกษ
เวลา 09.50 น.ทหารกัมพูชาพยายามรุกล้ำอธิปไตยเข้ามาที่ปราสาทตาควายจึงถูกฝ่ายไทยใช้ปืนใหญ่ยิงสกัด เวลา 10.51 น.เครื่องบิน F-16 ของไทยจำนวน 6 ลำขึ้นบินตอบโต้ในพื้นที่ช่องอานม้าโจมตีฐานทัพทหารกัมพูชาได้รับความเสียหายหนัก จากนั้นเวลา 11.00 นทางการไทยได้แถลงข่าวเหตุการณ์นำอุตสาห์ใช้จรวด BM -21 ยิงเข้าใส่พื้นที่พลเรือนซึ่งรวมถึงโรงพยาบาล บ้านเรือน และปั๊มน้ำมันในจังหวัดสุรินทร์และศรีสะเกษ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยมีเด็กอายุ 5 ขวบรวมอยู่ด้วย
ต่อมาเวลา 11.37 น. ทางการไทยทำลายกระเช้าขึ้นภูมะเขือที่ใช้ส่งกำลังบำรุง และเสบียงของทหารกัมพูชาได้สำเร็จขณะที่เวลา 11.54 น. กัมพูชาโจมตีโรงพยาบาลพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ทำให้มีประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บ เวลา 11:55 น ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ลริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ได้แถลงยืนยันว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อนและได้ตัดสินใจยกระดับมาตรการตอบโต้ด้วยการปิดทุกด่านชายแดน จากนั้นเวลา 12.00 น.รัฐบาลไทยแถลงประณามกัมพูชาที่ใช้อาวุธยิงเข้าสู่พื้นที่พลเรือน และยืนยันว่ากองทัพและรัฐบาลไทยมีความพร้อมทางด้านอาวุธและการดูแลประชาชน
ขอบคุณภาพเครื่อง F-16 จาก เฟซบุ๊ก Padermchai Goonpiboon
