ที่ พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง นางฐิติมา ฉายแสง อดีตส.ส.ฉะเชิงเทรา นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง น.ส.อนุตมา อมรวิวัฒน์ นายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่ารฟม. นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา โดยมีร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติและผู้บริหารของพรรคไทยรักษาชาติให้การต้อนรับ

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ลาออกจากพรรคเพื่อไทย เพราะมีความขัดแย้งกับแกนนำพรรคหรือใครในพรรค ไม่มีปัญหาความแตกต่างทางอุดมการณ์หรือนโยบาย ตนคิดว่าการทำงานตามอุดมการณ์เพื่อให้ปรากฏเป็นจริง จะทำได้อย่างไร และ ที่มาร่วมงานกับพรรคไทยรักษาชาติ เนื่องจากที่นี่ได้รวมผู้สนใจการเมือง มีวิสัยทัศน์ ต้องการมีบทบาททางการเมือง ท่านหัวหน้าพรรคได้มาเชิญผม จากการหารือเห็นได้ชัดว่าพรรคนี้มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยตรงกัน เลยตัดสินใจมา ที่มาไม่ใช่เพราะหนีกับดักส่วนตัว แต่ต้องการพัฒนาบ้านเมืองด้วยวิสัยทัศน์ใหม่ๆ เพื่อให้พรรคนี้เป็น ยาพาหนะ ที่ทำให้พรรค นักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย หลีกเลี่ยงกับดักที่ออกแบบไว้ เพื่อไปสู่จุดหมายปลายทางที่จะพัฒนาประเทศชาติร่วมกัน โดยตั้งเป้าจะนำพาพรรคฝ่ายประชาธิปไตยให้ได้ 251 เสียง

“การออกรัฐธรรมนูญเช่นนี้ เหมือนกับเจาะจงให้กับมีผลต่อพรรคการเมืองใหญ่ โดยเฉพาะเป็นประตูกล เป็นกับดักที่เล่นงานพรรคการเมืองใหญ่ ทำให้เกิดผลเสียต่อฝ่ายประชาธิปไตย เมื่อเรารู้เท่าทันในรัฐธรรมนูญและหมากกล เราเชื่อว่าสามารถทำให้พรรคการเมือง พ้นและฝ่าจากกับดักนี้ไปได้ ซึ่งถือว่า เป็นการเพิ่มโอกาสฝ่ายประชาธิปไตย ลดโอกาสที่เขาจะสืบทอดอำนาจ” นายจาตุรนต์ กล่าว

นายจาตุรนต์ ฉายแสง