จากกรณีแก๊งเสือปุ่นกับพวก รวม 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเงิน USDT จำนวน 100,000 ดอลลาร์ ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวันที่ (30 มิ.ย. 68) ภายหลังติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 4 ราย คือ 1. นายเฌอพัชญ์ ดีดวงพันธ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี สาวประเภท 2 ทำหน้าที่เป็นเอเยนต์ และ 2. น.ส.นานา มุกข์ประดับ หรือนานา อายุ 31 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ที่ จ.3836,3837/2568 ลงวันที่ 1 ก.ค. 2568 ตามลำดับ ในข้อหาปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด ได้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เมื่อช่วง 01.00 น. ของวันที่ 1 ก.ค. 2568 ต่อมาศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาอีก 5 ราย ประกอบด้วย 1. นายรุ่งนิรันดร์ โฉมพัตร หรือโบ้ อายุ 32 ปี 2. นายบอล เหล่าบุญมา หรือบอล อายุ 35 ปี 3. นายนนทวัฒน์ สอนส่งกลิ่น หรือสอง อายุ 28 ปี 4. นายวรวัฒน์ เชื่อมแก้ว หรือเสือปุ่น (หัวหน้าแก๊ง) อายุ 43 ปี และ 5. นายอนันต์ชัย มณีโชติ หรือไอซ์ อายุ 26 ปี ซึ่งทั้งหมดถูกออกหมายจับในข้อหา “ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป” ก่อนติดตามไปจับกุมอีก 2 ราย โดยนายนนทวัฒน์ หรือสอง ส่วนนายอนันต์ชัย หรือไอซ์ ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.บางศรีเมือง ตามที่เสนอข่าวให้ทราบนั้น

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 18 ก.ค. 2568 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลือวิไล ผบก.สส.บชน. พร้อมชุดสืบสวนร่วมกันจับกุมตัวนายวรวัฒน์ หรือเสือปุ่น หัวหน้าแก๊งปล้นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา และนายบอล ผู้ต้องหาคดีเดียวกัน ตามหมายจับศาลอาญาเช่นกัน โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านเช่า ในหมู่บ้านพูนผล ซอยบุญคุ้ม ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ขณะหลบหนีมากบดาน พร้อมด้วยของกลางปืนสั้นพกแบบแม็กกาซีนขนาด .365 เครื่องกระสุน 29 นัด เงินสด 3 พันบาท รถเก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด สีดำ ทะเบียน กค 4520 พิจิตร ซึ่งเป็นทะเบียนปลอม กระเป๋าหลุยส์ วิตตองส์ 2 ใบ จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เข้าไปสอบสวนที่ บก.สส.บชน.

จากการสอบสวนนายวรวัฒน์หรือเสือปุ่น ให้การว่า สาเหตุที่ลงมือปล้นเงิน เพราะคิดว่าเป็นเงินเทา ผู้เสียหายจะไม่กล้าแจ้งความ ส่วนเงินที่ได้ส่วนแบ่งไปกว่า 1 ล้านบาท เอาไปใช้ซื้อยาบ้ามาเสพ ตระเวนกิน เที่ยว และย้ายที่พักหนีตำรวจไปเรื่อยจนเงินหมด เหลือติดตัวเพียง 3,000 บาท ส่วนกระเป๋าหลุยส์ วิตตองส์ นายวรวัฒน์อ้างว่าเพื่อนให้มา

อย่างไรก็ตาม ยังเหลือนายรุ่งนิรันดร์หรือโบ้ เพียงคนเดียวที่ยังหลบหนี โดยชุดสืบสวนอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

