หน้าแรกการเมือง“ทนายแจม” เรียกร้อง "ผู้แทนราษฎร" ทุกพรรค แสดงความกล้าหาญ โหวตผ่านร่าง กม.นิรโทษกรรมทุกฉบับ โดยไม่เลือกปฏิบัติ ถกความเห็นต่างในชั้นกรรมาธิการ

“ทนายแจม” เรียกร้อง “ผู้แทนราษฎร” ทุกพรรค แสดงความกล้าหาญ โหวตผ่านร่าง กม.นิรโทษกรรมทุกฉบับ โดยไม่เลือกปฏิบัติ ถกความเห็นต่างในชั้นกรรมาธิการ

นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาลงมติร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จำนวน 5 ฉบับในวันพรุ่งนี้ (16 ก.ค. 68) ว่า ตนได้รับมอบหมายให้ไปพูดคุยกับ สส.ต่างพรรค เพื่อรับฟังความเห็น ทำความเข้าใจ อธิบายร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับอดีตพรรคก้าวไกลและฉบับของภาคประชาชน ขอความร่วมมือให้โหวตรับทุกร่างแล้วไปถกเถียงกันในชั้นกรรมาธิการ

นางสาวศศินันท์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าเป็นงานที่ใช้พลังมหาศาล ตนพยายามพูดเช่นนี้ตั้งแต่ตอนนั่งในกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม พูดทุกครั้งที่มีโอกาส แบกความหวัง ความเชื่อ ความจริงใจ ความตั้งใจไปทุกครั้ง แม้มีความเป็นไปได้แค่ 1% ก็ยินดีที่จะทำ แต่ข้อความที่ได้รับกลับมาคล้ายกัน สส. หลายคนบอกว่า “เห็นใจนะ แต่ทำไม่ได้หรอก เรื่องคดีมาตรา 112 กลัวจะโดนยุบพรรค ขนาดเพียงแก้ไขกฎหมาย ยังถูกยุบเลย” และสิ่งที่แทบทุกคนพูดตรงกัน คือ “เอาคนกลุ่มใหญ่ออกมาก่อน เอาบางส่วนก่อน ที่เหลือค่อยว่ากัน” บางคนเห็นแก่ตัวยิ่งกว่า ถึงกับสื่อสารว่า “ของพวกพี่ออกมาจากคุกกันหมดแล้ว ไม่เดือดร้อนอะไร”

จนถึงวันนี้ ผ่านมาเกือบสองปีที่ นายอานนท์ นำภา และผู้ต้องหาทางการเมืองจำนวนมาก ยังไม่ได้ออกจากเรือนจำ หลายคนต้องระหกระเหินไปต่างประเทศ และอีกจำนวนมากไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ เพียงแค่พวกเขาออกมาส่งเสียงเรียกร้อง มีเจตจำนงเสรีที่ต้องการเห็นประเทศนี้ดีขึ้น พวกเขาในที่นี้ไม่ได้หมายถึงคนกลุ่มใดคนหนึ่ง แต่หมายถึงประชาชนทุกคนในห้วงเวลาความขัดแย้ง 20 ปีที่ผ่านมา

“เราถกเถียงกันอยู่ในห้องแอร์ ว่าควรจะกำหนดเงื่อนไขให้คนกลุ่มหนึ่ง แต่ช่างคนอีกกลุ่มหนึ่งที่พวกคุณมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยทางการเมือง เราถกเถียงกันว่าควรให้โอกาส แต่กลับจะปิดโอกาสของคนอีกกลุ่มอย่างหน้าตาเฉย เราจะส่งเสริมสันติสุข สลายขั้ว และออกจากความขัดแย้ง โดยทิ้งคนอีกกลุ่มไว้ได้อย่างไร นี่คือสิ่งที่ดิฉันคิดตลอดการฟังการอภิปราย เมื่อวันพุธที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา การนิรโทษกรรมที่เริ่มต้นจากการเลือกปฏิบัติ จะยุติความขัดแย้งได้อย่างไร มีแต่จะสร้างความขัดแย้งที่ร้าวลึกกว่าเดิม” นางสาวศศินันท์ กล่าว

นางสาวศศินันท์ กล่าวว่า แม้จะมีความหวังอยู่เพียงน้อยนิด แต่ยังเชื่อว่าในวันพรุ่งนี้ ร่างกฎหมายของอดีตพรรคก้าวไกลและของภาคประชาชน จะได้ผ่านเข้าสู่วาระ 2 พร้อมกับร่างอื่น เพียงแค่เสียงของพรรคประชาชนบวกกับพรรคเพื่อไทย ก็ผ่านได้สบาย หรืออย่างน้อยพรรคเพื่อไทยกดงดออกเสียงให้ร่างอดีตพรรคก้าวไกลและร่างภาคประชาชน ทั้งสองฉบับก็จะผ่านวาระหนึ่งเช่นกัน ดังนั้น ขอความกล้าหาญจากผู้แทนราษฎรทุกพรรคการเมือง ช่วยกันผ่านกฎหมายฉบับนี้ เรื่องใดที่ยังเห็นต่าง ไปคุยกันในชั้นกรรมาธิการ แต่อย่าเพิ่งปิดประตูความหวังอันน้อยนิดของประชาชนตั้งแต่วาระแรก นี่คือโอกาสสำคัญในการร่วมกันยุติความขัดแย้งและคืนความเป็นธรรมแก่ประชาชนตลอดกว่า 2 ทศวรรษของสังคมไทย


RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img