
ตามนโยบายรัฐบาลได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศปปง.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส./ผอ.ศตคม.ตร. และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว

วันพฤหัสบดีที่ 15 ก.ค.68 เวลา 13.30 น. ณ บริเวณชั้น 1 บก.สอท.2 นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท.,พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์รอง ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์หารือ ทีม Chat GPT เตรียมนำ AI ช่วยงานด้านข้อมูล เพิ่มความรวดเร็วในกระบวนการปราบโจรออนไลน์
เมื่อวันอังคารที่ 8 ก.ค.68 เวลาประมาณ 13.00 น. ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุม ชั้น 3 บก.สอท. 2 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ได้มอบหมายให้พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ผบก.ตอท. พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชาของ บช.สอท.ร่วมประชุมหารือกับตัวแทนจากผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน Chat GPT
โดยการประชุมหารือครั้งนี้ เพื่อตั้งคณะทำงานการขับเคลื่อนการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Articial Inteligence : Al) บช.สอท. โดยได้สำรวจข้อมูลผู้ขอเข้าใช้ Chat GPT ในระดับ บก.เพื่อนำมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน หวังยกระดับการให้บริการประชาชน และเพิ่มความแม่นยำในกระบวนการสืบสวนสอบสวน รองรับความท้าทายของอาชญากรรมไซเบอร์ที่อาชญากรมีการปรับเปลี่ยนแผนประทุษกรรมอย่างต่อเนื่อง

ในระยะแรก บช.สอท. จะส่งเสริมให้ข้าราชการตำรวจนำ AI มาใช้ในภารกิจที่เกี่ยวข้องกับงานข้อมูล อาทิ การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น การช่วยตรวจสอบข้อมูลเส้นทางการเงิน การช่วยแปลภาษา การเรียบเรียงเอกสาร และตรวจสอบข้อความที่น่าสงสัยจากโซเชียลมีเดียอย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ต่อมา คาดว่าจะนำมาใช้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ในการจัดทำสำนวนให้ถูกต้อง ครบถ้วน และทันเวลา โดยใช้มาเป็นเครื่องมือช่วยในการจัดระบบข้อมูล วิเคราะห์ และร่างเอกสารในขั้นต้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบและสรุปผลได้เร็วขึ้น
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยว่า “AI ไม่ได้มาแทนที่ตำรวจ แต่จะเข้ามาเป็นผู้ช่วยสำคัญ ที่ทำให้งานสืบสวนสอบสวนและงานบริการประชาชนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดภาระงานซ้ำซ้อน และเพิ่มความรวดเร็วในงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูลและเอกสาร รวมทั้งการเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคดี นวัตกรรม AI จึงไม่ใช่แค่เทคโนโลยีล้ำยุค แต่เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่จะช่วยให้ตำรวจไทยทำงานเชิงรุก มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และให้บริการประชาชนได้อย่างทั่วถึงและทันสถานการณ์ ”

