ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเวลา11.30 น. วันที่15 พฤศจิกายน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. ในฐานะรองผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ(ศปอส.ตร.) แถลงการจับกุมนายปรรณวิสิฐ จงรักสานติกูล หรือ เชฟออย อายุ 36 ปี เจ้าของร้านเวดดิ้ง Panvisit และ นายนุกูล มนูเลิศ อายุ 36 ปี ผู้จัดการร้าน ผู้ต้องหาตามหาหมายศาลอาญา ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายปรรณวิสิฐได้ที่ซอยสวนผัก19 แขวงเขตตลิ่งชัน ส่วนนายนุกูล จับได้ที่ต.หนองสังข์ อ.แก่งคร้อ จ.ชัยภูมิ ตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า มีกลุ่มผู้เสียหายคู่รักกำลังจะแต่งงานได้ทำการซื้อแพ็กเกจแต่งงานกับทางร้าน Panvisit ซึ่งจดทะเบียนในนามบริษัท สยาม ปิติ จำกัด ต่อมา ในวันที่ 12 พ.ย. ได้ทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่า บริษัท สยาม ปิติ จำกัด ได้ยกเลิกการจดทะเบียนเป็นบริษัทไปแล้ว จึงเชื่อแน่นอนว่าเป็นการหลอกลวง โดยผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนทั้งการผิดนัดส่งชุดแต่งงาน บ่ายเบี่ยงเลื่อนนัดพูดคุยเกี่ยวกับพิธีการ ผิดนัดถ่ายพรีเวดดิ้ง ผู้เสียหายจึงได้รวมกลุ่ม จำนวนกว่า 300 ราย 150 กว่าคู่ แจ้งความกับตำรวจ จากการตรวจสอบพบว่า มีร้านในเครือทั้งหมด 4 ร้าน คือ ร้าน panvisit , ร้านเช่าชุดในตำนาน ณ นิรันดร์ , ร้านเลอ ปิติ และร้าน anastasia รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 7,845,610 บาท ทั้งนี้ จากการสอบสวน ผู้ต้องหารับสารภาพว่ามีปัญหาการบริหารงานภายในบริษัท โดยจะชดใช้เงินคืนให้กับผู้เสียหายทั้งหมด หลังจากนี้จะต้องมีการเจรจาคืนเงินต่อหน้าพนักงานสอบสวน เพื่อไม่ให้เกิดวุ่นวาย โดยผู้ต้องหาไม่มีพฤติกรรมหลบหนี และไม่เคยมีประวัติฉ้อโกงมาก่อน หลังจากนี้จะต้องมีการไล่ตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมดว่าเงินที่ได้มานำไปทำอะไรบ้าง
ด้านนายวุฒิชัย ประเสิรฐเกื้อกูล หนึ่งในผู้เสียหายที่ของแพ็กเกจ เช่าชุดแต่งงานกับร้าน ซึ่งจะตัดงานแต่งงานในวันที่22ธ.ค.นี้ ระบุว่า หากมีการเจรจาที่จะชดใช้ก็ยินดี แต่ในส่วนของคดีอาญาก็ให้ดำเนินไป ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีการประสานจากเจ้าของร้านเจรจาเลย ทั้งนี้ผู้เสียหายที่รวมกลุ่มมีการพูดคุยกัน ว่า ต้องการได้เงินค่าเสียหายคืนภายใน7วัน เพราะทุกคนเดือดร้อนต้องไปเช่าชุด และจ่ายเงินค่าใช้จ่ายอื่นๆในงานแต่งตามกำหนดเดิม
ด้านนายปรรณวิสิฐ เจ้าของร้าน ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทขาดสภาพคล่องทางการเงินจริง ก่อนหน้านี้ ได้รับผิดชอบกับกลุ่มลูกค้าที่ได้รับความเดือดร้อนได้ชดใช้ไปแล้ว แต่เมื่อมาเป็นข่าว ทำให้มีผู้เสียหายรวบรวมเข้ามาพร้อมกัน ตนไม่สามารถทยอยชดใช้ให้ทัน ซึ่งหลังจากนี้ตนเองยินดีจะชดใช้ทุกคน แต่มูลค่า ไม่น่าจะถึงกว่า 7 ล้านบาท
ทั้งนี้ยอมรับว่า ทางร้านมีชุด และพนักงานไม่เพียงพอ แต่กลับรับลูกค้าเกินจำนวนของที่มี ซึ่งเป็นการบริหารจัดการผิดพลาด ส่วนระยะเวลาว่าจะชดใช้เมื่อไหร่ ขอเวลาในตรวจสอบความเสียหาย แต่ยืนยันว่าจะชดใช้ให้ผู้เสียหายทุกคน