กรุงเทพฯ วันที่ 8 ก.ค. – นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการบริหารจัดการผลผลิตลำไยคุณภาพ ครั้งที่ 1/2568 ซึ่งมีนายอัครา พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ร่วมประชุมว่า คาดว่าปีนี้จะมีปริมาณผลผลิตลำไยออกสู่ตลาดสูงกว่าปีที่ผ่านมา โดยผลผลิตจะออกกระจุกตัวในเดือน ก.ค.-ส.ค. อาจทำให้ผลผลิตลำไยล้นตลาด และราคาตกต่ำ ซึ่งหนึ่งในปัญหาที่สำคัญคือปัญหาขาดแคลนแรงงานในการเก็บเกี่ยวลำไยผลสด หากมีแนวทางการผ่อนปรน หรือมีมาตรการเป็นการเฉพาะให้เคลื่อนย้ายแรงงานจากภาคตะวันออกไปสู่ภาคเหนือให้มีความสะดวก โดยไม่ขัดต่อกฎหมาย จะเป็นปัจจัยที่สำคัญในการเก็บเกี่ยว รวบรวม และกระจายผลผลิต จึงจำต้องต้องประสานการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงแรงงาน

“ผมได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการทำงานร่วมกันตลอดห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ภาคการผลิต จนถึงการตลาด เพื่อเร่งกระจายผลผลิตออกจากแหล่งผลิตทั้งภายในและภายนอกประเทศ และใช้กลไกระบบสหกรณ์ในการสนับสนุนการกระจายผลไม้ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมการผลิตลำไยคุณภาพ จะทำให้เกษตรกร มีรายได้เพิ่มขึ้น เกิดความมั่นคงในอาชีพเกษตรชาวสวนลำไยอย่างยั่งยืน“นายอรรถกร กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ติดตามความก้าวหน้าโครงการนำร่องส่งเสริมการผลิตลำไยคุณภาพเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ปี 2568 และรับฟังปัญหาจากสภาอาชีพเกษตรกร เพื่อนำข้อเสนอต่างๆ มาวางแผนบริหารจัดการลำไยในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ กำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันระหว่างภาครัฐ และเกษตรกร

สำหรับการคาดการณ์ผลผลิตลำไย ปี 2568 ภาคเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ตาก น่าน พะเยา แพร่ ลำปาง และลำพูน มีเนื้อที่ยืนต้น 1,243,784 ไร่ คาดการณ์ว่าปีนี้จะมีปริมาณผลผลิตลำไย 1,064,242 ตัน มากกว่าปี 2567 ที่มี 947,140 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 117,102 ตัน คิดเป็นร้อยละ 12.36 โดยเป็นลำไยในฤดู 740,639 ตัน มากกว่าปี 2567 ที่มีปริมาณ 598,528 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 142,111 ตัน คิดเป็นร้อยละ 23.74 เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการติดดอกออกผล และจะเริ่มออกกระจุกตัวใน ก.ค. ปริมาณ 225,006.13 ตัน โดยออกกระจุกตัวสูงสุดใน ส.ค. ปริมาณ 442,386.42 ตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 30.38 และ 57.03 ตามลำดับ ผลผลิตเฉลี่ย ปี 2568 คือ 860 กิโลกรัมต่อไร่ สูงกว่าปี 2567 ที่มีผลผลิตเฉลี่ย 766 กิโลกรัมต่อไร่ เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นติดต่อกันเป็นเวลานานเอื้ออำนวยต่อการติดดอกออกผล

