
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เปิดปฏิบัติการ “Bye Bye Dark Wallets” เข้าตรวจค้นพร้อมกัน 10 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี และปทุมธานี จับกุมขบวนการให้บริการ e-Money เถื่อนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พบมีเงินหมุนเวียนสูงเกือบ 400 ล้านบาท และมีพฤติกรรมโอนเงินออกนอกประเทศอย่างผิดกฎหมาย

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชา และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.5 บก.ปอศ. นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.สุทธิพงษ์ มอญรัตน์, ว่าที่ พ.ต.ท.สุทธิพงษ์ จันทพันธ์, ว่าที่ พ.ต.ต.พิชญากร แตงรอด และ ว่าที่ พ.ต.ต.บัญชา ช่วยรอดหมด เข้าตรวจค้นสถานที่เป้าหมายจำนวน 10 จุด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาคารสำนักงานและโกดังสินค้า โดยมีหมายค้นจากศาลที่เกี่ยวข้องครบถ้วน

จากการสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหา 12 ราย ประกอบด้วยบริษัทและกรรมการของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจแพลตฟอร์มสั่งซื้อสินค้าจากจีน ซึ่งได้เปิดให้บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) โดยไม่ขออนุญาตตาม พ.ร.บ.ระบบการชำระเงิน พ.ศ. 2560 ประกอบด้วยบริษัทเอกชนหลายแห่ง

พฤติกรรมหลบเลี่ยงกฎหมาย-ฟอกเงิน รูปแบบการให้บริการของบริษัทเหล่านี้ เปิดรับเงินจากลูกค้าที่ต้องการสั่งสินค้าจากจีน โดยให้เติมเงินเข้าบัญชีกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ล่วงหน้า ซึ่งไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับจากหน่วยงานทางการเงินของรัฐ นำไปสู่ความเสี่ยงในหลายด้าน ทั้งความปลอดภัยของผู้ใช้งาน การหลบเลี่ยงภาษี และเป็นช่องทางในการฟอกเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เงินถูกโอนไปยังต่างประเทศอย่างไร้การตรวจสอบ
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการใช้บุคคลอื่นเป็นกรรมการหรือผู้ถือหุ้นแทนตัวจริง ซึ่งเป็นชาวจีนที่อยู่เบื้องหลังและเป็นผู้ได้รับประโยชน์โดยตรงจากธุรกิจดังกล่าว

เจ้าหน้าที่สามารถยึดของกลางที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดได้หลายรายการ เช่น คอมพิวเตอร์ 6 เครื่องโทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง เอกสารทางการเงินและข้อมูลแพลตฟอร์มจำนวนมาก
ตำรวจสอบสวนกลางขอเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการใช้บริการ e-Money จากผู้ให้บริการที่ไม่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ และควรตรวจสอบข้อมูลกับธนาคารแห่งประเทศไทยก่อนใช้งาน สามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์

