“แพทองธาร” เปิด “SPLASH – Soft Power Forum 2025” ชูแนวคิดวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ยกระดับซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่เวทีโลก

385

ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ วันที่ 8 กรกฎาคม เวลา 14.00 น. – นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รมว.วัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน SPLASH – Soft Power Forum 2025 โดยระบุว่า ทุกวันนี้เราทุกคนกำลังอยู่ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและซับซ้อน มากกว่าทุกยุคที่ผ่านมา เรากำลังเผชิญโลกที่เปราะบาง น่าวิตกกังวล เข้าใจยาก และไม่ตรงไปตรงมา เชื่อว่าในโลกยุคใหม่การเข้าใจบริบทของความเปลี่ยนแปลง คือจุดเริ่มต้นของทุกการเดินหน้า สิ่งที่เราต้องการไม่ใช่แค่ความรู้หรือแผนงาน แต่คือความยืดหยุ่น ความเข้าใจมนุษย์ และความกล้า ที่จะเปลี่ยนความเปราะบางให้กลายเป็นพลังในการออกแบบอนาคตใหม่

สิ่งที่เราเคยฝากความหวังไว้ เช่น การเป็น “ดีทรอยต์แห่งเอเชีย” ศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน หรือ “ครัวของโลก” วันนี้กำลังเผชิญข้อจำกัดมากขึ้น ทั้งจากสงครามการค้า เทคโนโลยีที่เปลี่ยนไว ความผันผวนของตลาดโลก และความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม ประเทศไทยกำลังยืนอยู่บนทางแยกแห่งอนาคต รัฐบาลไทยกำลังลงทุนในโครงสร้างใหม่ ๆ เช่น อุตสาหกรรมดิจิทัล และการเป็นศูนย์กลางการขนส่งของภูมิภาค ซึ่งล้วนเป็นรากฐานของเศรษฐกิจอนาคต ที่ใช้เวลาและการลงทุนมหาศาล และอีกหนึ่งเส้นทางสำคัญที่เราให้ความสำคัญ คือ “วัฒนธรรมสร้างสรรค์ที่สร้างซอฟท์พาวเวอร์” วันนี้ผู้คนทั่วโลกไม่ได้ซื้อแค่สินค้าและบริการ แต่ซื้อประสบการณ์ที่สะท้อนอัตลักษณ์ วัฒนธรรม และรากของภูมิปัญญา เปิดรับ Soft Power ที่มีรากจากท้องถิ่น แต่มีคุณค่าแบบสากล สะท้อนความยั่งยืน โอบรับความหลากหลาย มีความคิดสร้างสรรค์ และเป็นของจริงเท่านั้น โดยเชื่อว่าวัฒนธรรมไทยของเรามีครบถ้วนทุกองค์ประกอบที่จะทำให้ต่างชาติหลงรัก

ทั้งหมดนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความภาคภูมิใจทางวัฒนธรรม แต่กำลังกลายเป็นเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ เป็นโอกาสใหม่กับพี่น้องคนไทย ที่สร้างรายได้มหาศาลจากความเป็นตัวของเราเอง ในปีที่ผ่านมา นโยบาย Soft Power ของไทยได้เดินหน้าอย่างมีทิศทางและเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในสองด้านสำคัญคือ 1) การบูรณาการทุกภาคส่วนให้ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ ใช้งบประมาณตรงจุด ไม่ซ้ำซ้อน 2) การเปลี่ยนบทบาทของภาครัฐให้เป็น “ผู้สนับสนุน” ให้เอกชนเป็นผู้นำในการขับเคลื่อน

รมว.วัฒนธรรมกล่าวว่า ขั้นต่อไปคือการ “ยกระดับ” จากจุดเริ่มต้นที่เน้นภายในประเทศ สู่การมองให้ไกลขึ้น กว้างขึ้น และเชื่อมกับโลกให้มากขึ้น โดยมีเป้าหมายใหญ่ดังนี้ 1.”อาหารไทย” จะยกระดับอาหารไทยให้เป็นแบรนด์ระดับโลกและเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทาง ด้วยโมเดลร้าน “Thai Cuisina” ที่รวมร้านอาหารไทย 4 ภาค และซุปเปอร์มาร์เก็ตขายผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูปที่มีคุณภาพไว้ในที่เดียวกัน และเป็นศูนย์ค้าส่งกระจายผลิตภัณฑ์อาหารไทยในต่างประเทศอีกด้วย โดยวางแผนว่าจะให้มีร้าน  Thai Cuisina ไปอยู่ตามเมืองใหญ่ทั่วโลก พร้อมกันนี้จะต้องยกระดับการท่องเที่ยวด้วยประสบการณ์แบบ Thai Culinary Tourism อย่างจริงจังทั้งคลาสเรียนทำอาหาร ทัวร์แหล่งวัตถุดิบท้องถิ่น ควบคู่ไปกับการสร้างมาตรฐาน “Thai Select” ให้สามารถเทียบเคียงได้กับ รางวัลทางอาหารอื่นๆ เช่น Michelin Star โดยจะการันตี รสชาติอาหารที่เป็นไทย และใช้วัตถุดิบไทย

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า 2.”มวยไทย” ทำให้เป็นไลฟ์สไตล์ใหม่ของชาวโลก โดยสร้าง Muay Thai Bootcamp ให้เป็นเทรนด์ใหม่ รวมทั้งพัฒนาลีกอาชีพให้แข็งแรง ยกระดับมาตรฐานมวยไทยในทุกมิติ 3.”Thai Wellness” โดยผสานนวดไทย สมุนไพร อาหารสุขภาพ และสมาธิ ให้กลายเป็นประสบการณ์แบบองค์รวม สร้าง Thai Retreat Chain ยกระดับสมุนไพรไทยและนวดไทยที่รองรับด้วยการวิจัยทางการแพทย์ พร้อมสำหรับการทำเป็นสินค้าส่งออกและส่งเสริมร้านนวดไทยเพื่อสุขภาพแบบมืออาชีพไปทั่วโลก 4.”ภาพยนตร์ไทย” สนับสนุนคนทำหนังไทยให้กล้าฝันและกล้าสร้าง ผ่านพื้นที่ทดลองอย่าง writer’s room และ creative lab ให้สิทธิประโยชน์คืนเงินเช่นเดียวกับที่ให้กองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศ พร้อมดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศผ่านกองทุน co-production จัดงาน “เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพ ให้เป็นเทศกาลภาพยนตร์สำคัญของโลก เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านภาพยนตร์และสร้างตลาดการซื้อขายภาพยนตร์นานาชาติที่กรุงเทพฯ

รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า 5.“อัญมณี” ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมส่งออกอันดับต้นๆ ของไทย ปีที่แล้วส่งออกอัญมณีไปกว่า 500,000 ล้านบาท และเพียง 5 เดือนแรกของปีนี้ส่งออกไปแล้ว 380,000 ล้านบาท มีคนในอุตสาหกรรมนี้ถึง 1 ล้านคน ดังนั้นจะฝึกอบรมนักออกแบบ ช่างเจียรนัยเพชร ช่างทอง ช่างเงิน จำนวนมาก และยกระดับจากช่างให้เป็นศิลปิน มีค่าตอบแทนสูง และเราจะใช้มาตรการต่างๆ ในการส่งเสริมอุตสาหกรรมนี้ เพื่อเพิ่มมูลค่าส่งออกอัญมณีให้ถึง 1 ล้านล้านบาท ภายใน 5 ปี

นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ที่เรามองเห็นโอกาส ยังมีอีกหลายเรื่องหลายด้านที่เราพร้อมจะให้ทุกท่านมาเรียนรู้ งานนี้ไม่ใช่แค่เวทีจัดแสดงศักยภาพของอุตสาหกรรม Soft Power ไทย แต่คือพื้นที่แห่งความหวัง ความร่วมมือ และความสร้างสรรค์ร่วมกันของคนไทย “เรามีหน่วยงานภาครัฐ ศิลปิน นักออกแบบ นักเล่าเรื่อง เชฟ นักแสดง นักกีฬา นักเขียน ช่างฝีมือ ผู้ประกอบการ ที่ร่วมกันทำให้งานนี้เกิดขึ้น เราจะได้มองเห็นอนาคตของอุตสาหกรรม Soft Power ไทยในหลายรูปแบบ ได้แลกเปลี่ยนกับนักสร้างสรรค์จากทั่วโลก ได้ร่วมฟังวิสัยทัศน์จากผู้นำในอุตสาหกรรม ซึ่งจะจุดประกายไอเดียใหม่ๆ ที่เปลี่ยนอนาคตของประเทศไทยไปตลอดกาล” นางสาวแพทองธารกล่าวปิดท้าย

ขณะที่ นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวว่า โลกปัจจุบันผันผวนเกินกว่าจะคาดเดาได้ สิ่งที่เราเคยถนัดกลับใช้ไม่ได้กับกติกาใหม่ของโลกใบนี้อีกแล้ว สิ่งซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมได้ริเริ่มไว้เมื่อเกือบสี่ปีที่แล้ว เรื่อง Soft Power จึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นทางรอด เป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวที่จับต้องได้ วันนี้ “วัฒนธรรมสร้างสรรค์” ที่หยั่งรากลึกจากภูมิปัญญาบรรพบุรุษ ผนวกกับทักษะและความคิดสร้างสรรค์ของพวกเราทุกคน ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว แผ่กิ่งก้านได้กว้างไกล ด้วยพลังร่วมมือกันของภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน งาน SPLASH ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-11 กรกฎาคมนี้ จึงไม่ใช่แค่งานอีเวนต์ธรรมดา แต่มันคือภาพจริงที่พิสูจน์ว่า ต้นกล้าวัฒนธรรมสร้างสรรค์ของไทย งดงาม แข็งแรง และกำลังเติบใหญ่ขึ้นทุกวัน

“ประเทศไทยของเรา จะฝ่าทุกอุปสรรค ด้วยวัฒนธรรมของบรรพบุรุษ และด้วยทักษะสร้างสรรค์ของคนไทยทุกคน และเราจะร่วมกันทำให้ กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ ก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางของ Soft Power ของโลกอย่างแท้จริง” นายสุรพงษ์กล่าว

ทั้งนี้ ภายในงานมีโซนกิจกรรมสำคัญ อาทิ เวทีเสวนานานาชาติ การแสดงวิสัยทัศน์ของผู้นำระดับโลก

โดยได้รับเกียรติจาก นายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์หัวข้อ ”Crafting the Future : From OTOP to ThaiWORKS and beyond” ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.30 – 14.20 น. และนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์หัวข้อ “Rethinking Thai Sports in Disruptive Era” ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 เวลา 12.45 – 13.45 น. นอกจากนี้พบกับผู้นำทางความคิดจากหลากหลายวงการ รวมทั้งนิทรรศการจาก 14 อุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ พร้อมการโชว์เคสผลงานจากผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และเวิร์กช็อปอบรมพิเศษเพื่อการพัฒนาองค์ความรู้ด้านซอฟต์พาวเวอร์ ให้แก่เยาวชน ผู้ประกอบการ และชุมชน

งาน SPLASH – Soft Power Forum 2025 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 – 11 กรกฎาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) Hall 1-4 ชั้น G และ L2 ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมชมงานได้ฟรีตลอดทั้ง 4 วัน ติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook และ Instagram SPLASH Soft Power Forum