เอกนัฏ” ส่ง “สุดซอย” ตรวจเหตุไฟไหม้โรงทิชชู่ สระบุรี อุตสาหกรรมจังหวัดสั่งปิดโรงงานชั่วคราว พร้อมทวนระบบป้องกันอัคคีภัย รง.ในพื้นที่

434

กรุงเทพฯ วันที่ 1 ก.ค. – นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงาน รมว.อุตสาหกรรม และหัวหน้าชุดตรวจการณ์สุดซอย หรือ ทีมสุดซอย ร่วมกับนายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เดินทางไปยังบริษัท ริเวอร์โปร์ พัลพ แอนด์ เพเพอร์ จำกัด ตั้งอยู่ในเขตประกอบการอุตสาหกรรม WHA เลขที่ 59 ม.4 ถ.หนองปลากระดี่ ต.บัวลอย อ.หนองแค จ.สระบุรี หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ โดยได้กำชับให้ทีมสุดซอยร่วมตรวจสอบหาสาเหตุ หากพบความผิดปกติเกี่ยวกับการประกอบอุตสาหกรรมให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที พร้อมเร่งให้ดูแลในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อลดผลกระทบที่เกิดกับชุมชน ประชาชน ให้เร็วที่สุด และฝากย้ำผู้ประกอบการให้เยียวยาพนักงานทั้งผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตอย่างเหมาะสม

ด้านนางสาวฐิติภัสร์ กล่าวว่า ทีมสุดซอยเดินทางมาตรวจที่ที่เกิดซึ่งประกอบกิจการ ผลิตกระดาษอนามัย กระดาษทิชชู มีคนงานรวมกว่า 390 คน ซึ่งเหตุเพลิงไหม้เริ่มเกิดเหตุเมื่อวานนี้เวลา 11.30 น. โดยเพลิงเริ่มจากบริเวณที่เก็บกองวัตถุดิบ ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้เมื่อเวลา 22.00 น. แต่ยังมีบางจุดที่ยังเกิดเหตุเพลิงไหม้สะสมต่อเนื่อง จนถึงช่วงสายของวันนี้ เนื่องจากภายในโรงงานใช้วัตถุดิบกระดาษเป็นหลักและมีอยู่เป็นจำนวนมาก กระดาษทำให้ติดไฟได้ง่าย เพลิงจึงลุกไหม้อย่างรวดเร็วและกระจายตัวเร็ว จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าเกิดความเสียหายอาคารประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ และมีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 22 ราย เป็นผู้บาดเจ็บสาหัส 4 ราย ผู้เสียชีวิต 8 ราย สูญหาย 2 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังทำการค้นหาผู้สูญหาย ซึ่งต้องปฏิบัติอย่างปลอดภัย เนื่องจากเหตุเพลิงไหม้มีระยะเวลายาวนาน ทำให้ตัวอาคารและโครงสร้างยุบตัวลงมา

ด้านอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี ได้ออกคำสั่งปิดโรงงานชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยแก่เจ้าหน้าที่ พนักงาน และชาวบ้านใกล้เคียง และให้โรงงานฯ ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงโรงงานให้เป็นไปตามที่ พรบ.โรงงาน กำหนด โดยเฉพาะด้านความปลอดภัยระบบป้องกันอัคคีภัย และให้โรงงานฯ เสนอแผนการปรับปรุง การกำจัดกากอุตสาหกรรมภายในโรงงานทั้งหมดมายังอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี เพื่อทำการติดตามตรวจสอบ ว่าถูกต้องและเป็นไปตามแผนที่เสนอมาอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้อุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี ยังจะเร่งสำรวจโรงงานในพื้นที่ใกล้เคียงที่มีลักษณะความเสี่ยงในการเกิดเหตุอัคคีภัยทั้งหมด เพื่อตรวจสอบระบบป้องกันอัคคีภัย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก

 “รัฐมนตรีฯ เอกนัฏ เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ พนักงาน และชาวบ้านใกล้เคียงอย่างยิ่ง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง เบื้องต้นได้เร่งให้ทางผู้ประกอบการดูแลเรื่องการเยียวยาผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตก่อน และให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งหาผู้สูญหาย พร้อมเน้นย้ำการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ต้องปลอดภัยด้วย”นางสาวฐิติภัสร์กล่าว