ไทยเพาะพันธุ์ปลาสลิดหินทะเลสำเร็จครั้งแรก! โชว์ในงานวันประมงน้อมเกล้าฯ ครั้งที่ 35

1083


“ปลาสลิดหินโรลแลนด์” (Roland’s Damselfish) และ “ปลาสลิดหินคูปัง” (Half-blue Damselfish) เป็นปลาทะเลขนาดเล็กที่มีสีสันสวยงาม นิยมนำไปเลี้ยงเป็นปลาตู้ หรือแม้แต่ในอควาเลียม ที่ต้องมีปลาชนิดนี้เป็นตัวเอกให้ผู้มาชมได้ยลโฉม แต่ประเด็นคือ ปลาทั้งสองชนิดต้องจับจากธรรมชาติเท่านั้น ยังไม่สามารถเพาะพันธุ์ได้


นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ด้วยนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้การกำกับดูแลของ นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มุ่งสนับสนุนให้ภาคการเกษตรก้าวสู่ความทันสมัย เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน สร้างรายได้อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลักดันปลาสวยงามของประเทศไทย ให้เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้เลี้ยงปลาตู้ทะเลสวยงามในระดับตลาดที่กว้างขวางเพิ่มขึ้น


ล่าสุดกรมประมงได้ประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ปลาสลิดหินที่มีศักยภาพเชิงการค้าได้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ได้แก่ “ปลาสลิดหินโรลแลนด์ (Chrysiptera rollandi)” และ “ปลาสลิดหินคูปัง (Chrysiptera hemicyanea (Weber, 1913) ” ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย

เนื่องจากปลาทั้งสองชนิดนี้จัดเป็นปลาทะเลสวยงามที่มีสีสันสดใส จึงได้รับความนิยมสูงในการนำมาเลี้ยงในอควาเรียมทั้งในและต่างประเทศ การเพาะพันธุ์ปลาทั้ง 2 ชนิดนี้ได้เอง จะช่วยลดการจับและทำลายทรัพยากรจากแหล่งธรรมชาติตลอดจนเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ในการสร้างอาชีพให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้สนใจสร้างอาชีพด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้


สำหรับปลาทั้ง 2 ชนิด สามารถเพาะขยายพันธุ์ได้โดย ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งกระบี่ ภายใต้สังกัดกองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง กรมประมง โดยปลาสลิดหินโรลแลนด์ (Roland’s Damselfish) ประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ในปี 2565 เป็นปลาทะเลสวยงามขนาดเล็ก ส่วนหัวมีสีเทาหรือเทาอ่อน ส่วนหางมีสีเหลืองอ่อน อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม อาศัยอยู่ตามแนวหินและปะการัง การเพาะพันธุ์เริ่มจากการคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ที่มีขนาด 5 ซม.ขึ้นไป เลี้ยงในบ่อปูนหรือถังไฟเบอร์กลาส โดยใส่วัสดุเพื่อให้ปลาวางไข่ เช่น แผ่นกระเบื้อง หรือท่อพีวิซี
จากนั้นเมื่อปลาวางไข่แล้ว ให้ย้ายวัสดุที่มีไข่ปลาติดอยู่ไปฟักในบ่ออนุบาล ซึ่งควบคุมให้มวลน้ำเคลื่อนที่ตลอดเวลาด้วยการให้อากาศผ่านหัวทรายคล้ายกับตอนที่ปลาใช้ครีบโบกพัด ไข่จะฟักตัวภายใน 72–78 ชั่วโมง ลูกปลาเริ่มกินอาหารได้หลังจากฟักแล้ว 1 วัน ได้แก่ โรติเฟอร์และนอเพลียสโคพีพอด จากนั้นเมื่ออายุ 15 วัน ให้อาร์ทีเมียแรกฟัก และเมื่อปลาอายุ 35 วันขึ้นไป จะเริ่มฝึกกินอาหารเม็ดสำเร็จรูปขนาด 300–500 ไมครอน และเมื่ออายุ 60 วันขึ้นไป ให้อาหารเม็ดชนิดจมน้ำได้วันละ 2 ครั้ง ควบคู่กับการดูแลด้านคุณภาพน้ำ ได้แก่ ความเค็ม pH และอุณหภูมิอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ปลาเจริญเติบโตแข็งแรง มีอัตรารอดสูง ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ พบว่า ลูกปลาที่อายุ 36–60 วัน มีอัตรารอดสูงถึง 100%


ส่วนปลาสลิดหินคูปัง (Half-blue Damselfish) ได้ประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ในปี 2567 เป็นปลาทะเลสวยงามขนาดเล็ก ด้านบนลำตัวมีสีน้ำเงินเข้ม ส่วนด้านล่างของลำตัวพาดด้วยแถบยาวสีเหลืองตั้งแต่คางจรดโคนหางด้านบน พบได้ทั่วไปในเขตร้อนของมหาสมุทรอินเดียและแถบอินโดแปซิฟิก ปลาชนิดนี้มีนิสัยรักสงบ ไม่ดุร้าย สามารถเลี้ยงร่วมกับปลาทะเลสวยงามชนิดอื่นได้ โดยปลาสลิดหินคูปังมีพฤติกรรมวางไข่ติดกับวัสดุ เช่น แผ่นกระเบื้อง หรือท่อพีวิซี วางไข่ครั้งละ 500–1,200 ฟอง ในทุกๆ 15 วัน ตลอดทั้งปี ไข่จะฟักภายใน 3–4 วัน ปลาตัวผู้มีหน้าที่ดูแลไข่ปลา ซึ่งในช่วงฟักควรควบคุมการให้ออกซิเจนเบาๆ เพื่อให้ ไข่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา เมื่อลูกปลาเริ่มฟัก สามารถให้อาหารมีชีวิตในรูปแบบเดียวกันกับปลาสลิดหินโรลแลนด์ ได้แก่ โรติเฟอร์ นอเพลียสโคพิพอด อาร์ทีเมีย และอาหารเม็ดสำเร็จรูปตามช่วงอายุ ในการเลี้ยงปลาอายุ 16-35 วัน มีอัตรารอดตาย 80-90% ด้วยสีสันสดใส เลี้ยงง่าย และมีแนวโน้มเป็นชนิดปลาที่มีศักยภาพด้านการตลาดทั้งในและประเทศปลาสลิดหินคูปัง จึงเป็นอีกหนึ่งความหวังใหม่ของเกษตรกรและผู้ประกอบการด้านสัตว์น้ำไทย


การเพาะพันธุ์ปลาสลิดหินทั้งสองชนิดนี้ นอกจากจะช่วยลดการจับจากธรรมชาติแล้ว ยังช่วยสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ ๆ ให้แก่เกษตรกร ผู้ประกอบการส่งออกสัตว์น้ำ ตลอดจนนักเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในการนำองค์ความรู้นี้ไปต่อยอด ปลาทะเลสวยงามที่ได้มาจากการเพาะเลี้ยงจะเป็นสัตว์น้ำที่ได้รับการสนับสนุนจากการตลาดมากขึ้นอย่างต่อเนื่องแทนที่ปลาที่ถูกจับจากธรรมชาติเพราะเป็นประโยชน์ในมิติของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปลาสลิดหินคูปัง ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปีเศษ จะมีขนาดโตเต็มวัยราว 4 ซม. มีราคาจำหน่ายในต่างประเทศอยู่ที่ 13–15 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัว (ประมาณ 455–525 บาท) ดังนั้น เพื่อการเจริญเติบโตทางด้านธุรกิจของเกษตรกรและผู้ประกอบการที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต กรมประมงซึ่งดำเนินการในกิจกรรมเงินทุนหมุนเวียนในการผลิตพันธุ์ปลาฯ ได้อยู่ระหว่างการประกาศราคาจำหน่ายปลาสลิดหินคูปัง ขนาด 1-6 ซม. อยู่ที่ราคา 40-700 บาท และปลาสลิดหินโรลแลนด์ ขนาด 1-2 ซม. อยู่ที่ราคา 20 บาท ซึ่งได้ประกาศราคาแล้ว เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2568 โดยเกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์วิจัย และพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งกระบี่ เบอร์โทร 075 662 059 ในวันและเวลาราชการ


ร่วมสัมผัสความงดงามของ “ปลาสลิดหินโรลแลนด์” และ “ปลาสลิดหินคูปัง” ได้ในงานวันประมง น้อมเกล้าฯ ครั้งที่ 35 โซนนิทรรศการของกรมประมง ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และ สเปลล์ ระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน – 6 กรกฎาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 10.30 – 20.00 น.