บช.น. – กทม. แถลงภาพรวมม็อบอนุสาวรีย์ชัยฯ เรียบร้อยดี ยึดมีด-ปืนก่อนเข้าพื้นที่ เผยมีผู้เสียชีวิตระหว่างขอความช่วยเหลือทางการแพทย์
(28 มิถุนายน 2568) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ฝ่ายความมั่นคง และนางวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงสรุปผลการปฏิบัติงานในการดูแลสถานการณ์การชุมนุมเวที “รวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย” บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างเวลา 10.00 – 21.35 น. โดยภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
พล.ต.ต.ธีรเดช เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดอาวุธและควบคุมสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยตรวจพบผู้พกคัตเตอร์ 34 ราย ดำเนินคดีในข้อหาพกพาอาวุธมีด 15 ราย ซึ่งรวมถึงผู้ครอบครองเคียว 1 ราย จับกุมผู้ต้องหาพกพาอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด 9 มม. พร้อมเครื่องกระสุนอีก 3 นัด จำนวน 1 ราย โดยผู้ต้องหารายนี้มีลักษณะเป็นนักศึกษา
นอกจากนี้ ยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาวิ่งราวทรัพย์ 1 ราย ผู้ต้องหาคดียาเสพติด 3 ราย และเหตุทำร้ายร่างกายอีก 1 ราย โดยกรณีหลังผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีประวัติป่วยทางจิตเวช รวมทั้งพบผู้ต้องหามีหมายจับค้างเก่าอีก 1 ราย และมีชาวต่างชาติ 8 รายที่ถูกตรวจสอบ แต่พบว่าเข้าเมืองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ในส่วนของผู้ต้องหาที่พกพาอาวุธส่วนใหญ่ไม่ยอมรับว่ามีเจตนานำเข้าพื้นที่ชุมนุม แต่ตำรวจได้ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายทั้งหมด
สำหรับสถานการณ์ด้านการแพทย์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการลื่นล้มเนื่องจากฝนตก 4 ราย และมีผู้เจ็บป่วยจากอาการเป็นลม 10 ราย นอกจากนี้ ยังมีเหตุการณ์ฉุกเฉินจากประชาชนทั่วไป 1 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางไปยังโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ แต่เกิดอาการสาหัสเมื่อรถพยาบาลผ่านพื้นที่ชุมนุม เจ้าหน้าที่แพทย์ในพื้นที่ได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นและรีบนำส่งโรงพยาบาลราชวิถี แต่ผู้ป่วยเสียชีวิตในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันดังกล่าวไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ และไม่มีความเสียหายต่ออุปกรณ์หรือทรัพย์สินราชการ
ด้าน พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้มอบหมายให้สำนักงานเขตราชเทวี สนับสนุนการทำงานของตำรวจ โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจ 250 นาย ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามสถานการณ์ และจัดเจ้าหน้าที่รวม 567 นายร่วมปฏิบัติงาน
หลังการชุมนุมเสร็จสิ้น จะมีการตรวจสอบพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง ก่อนดำเนินการทำความสะอาดและจัดระเบียบพื้นที่ โดยคาดว่าภายในเช้าวันที่ 29 มิถุนายน จะสามารถคืนพื้นที่ให้ประชาชนได้ใช้งานตามปกติ

