กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.
ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก, พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส, พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รอง ผบก.ปทส., พ.ต.อ.สมบัติ มาลัย รรท. ผกก.1 บก.ปทส.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ รอง ผกก.1 บก.ปทส., พ.ต.ท.ธีรวัฒน์ ชูกรณ์ สว.กก.1 บก.ปทส. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส., และเจ้าหน้าที่เทศกิจสำนักงานเขตจตุจักร
ร่วมกันดำเนินการ กรณีพบการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มาตรา 55 “ผู้ใดขับขี่รถซึ่งบรรทุกมูลสัตว์ กรวด หิน ดิน เลน ทราย มูลฝอย หรือมีนำมัน และวัตถุดังกล่าวได้ตกหล่นปลิว ฟุ้งกระจาย หรือรั่วไหลลงบนถนน ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสามพันบาท”
สถานที่จับกุม พื้นที่เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ ด้วยได้รับร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่เขตจตุจักร และ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
มีรถบรรทุกทำเศษดินตกร่วงบนผิวจราจรของถนนพหลโยธิน ประชาชนที่สัญจรหวั่นเกรงจะเกิดอันตราย
ถนนลื่น เกิดอุบัติเหตุต่อผู้ใช้รถใช้ถนน รวมถึง ดินที่หล่นจากรถบรรทุกและทำให้เกิดฝุ่นละอองบนถนน
เป็นปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่อาศัยหรือทำมาค้าขาย
ริมถนนที่รถบรรทุกสัญจร ซึ่งปัญหาฝุ่นละอองจากดินที่หล่นนั้นส่งผลกระทบต่อสุขภาพและยังสร้าง
ความสกปรกให้กับพื้นที่โดยรอบ และเศษดินตกหล่นทำให้ระบายน้ำไม่สามารถระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งฤดูฝนอาจเกิดปัญหาน้ำท่วมขังบนถนน
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. ออกตรวจเส้นทางตามที่ได้รับการร้องเรียน พบว่ามีเศษดินโคลนตกหล่นบนถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ (ตั้งแต่บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ระยะทางกว่า 6 กิโลเมตร) พบว่ารอยเศษดินเข้าไปในซอยพหลโยธิน 45 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
จึงได้ติดตามเข้าไปตรวจสอบ ระหว่างทางพบว่ามีประชาชนเดินข้ามถนนลื่นล้มจากเศษดินโคลนที่รถบรรทุกทำตกหล่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. และ เจ้าหน้าที่เทศกิจสำนักงานเขตจตุจักร จึงได้ให้สัญญาณหยุดรถและทำการตรวจสอบ และได้ร่วมกันพิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มาตรา 55 “ผู้ใดขับขี่รถซึ่งบรรทุกมูลสัตว์ กรวด หิน ดิน เลน ทราย มูลฝอย หรือมีนำมัน และวัตถุดังกล่าวได้ตกหล่นปลิว ฟุ้งกระจายหรือรั่วไหลลงบนถนน ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสามพันบาท”
เนื่องจากเป็นความผิดที่มีอัตราโทษปรับสถานเดียว ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ.2565
จึงได้ส่งเรื่องให้ สำนักงานเขตจตุจักรผู้มีอำนาจปรับเป็นพินัย กับผู้กระทำความผิดต่อมา สำนักงานเขตจตุจักรได้ดำเนินการทำความสะอาดถนนที่ดินตกหล่น ระยะทางกว่า 6 กิโลเมตร คืนผิวการจราจรให้กลับสู่ปกติ
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”
