หนามพุงดอ เป็นไม้พุ่มที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย จัดอยู่ในวงศ์ Salvadoraceae มีชื่อเรียกหลากหลายตามท้องถิ่น เช่น ขี้แฮด (ภาคเหนือ), ปี๊ดเต๊าะ (เชียงใหม่) และ พุงดอม หรือ หนามพุงดอ (ภาคกลาง)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
หนามพุงดอเป็นไม้พุ่มที่มีกิ่งมักห้อยลง ความยาวประมาณ 2-4 เมตร โดดเด่นด้วยหนามแหลม 1-2 อันตามซอกใบ ซึ่งหนามเหล่านี้มีความยาวประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร นอกจากนี้ยังมีหูใบขนาดเล็ก 2 อัน รูปลิ่มแคบ ใบของหนามพุงดอจะเรียงตรงข้ามกัน มีลักษณะเป็นรูปรี รูปไข่กว้าง หรือกลม ความยาวประมาณ 2-6 เซนติเมตร ปลายใบแหลมหรือเป็นติ่งคล้ายหนามเล็กๆ ยาว 1-2 มิลลิเมตร แผ่นใบด้านบนมีลักษณะเป็นมันเงา ส่วนก้านใบยาวประมาณ 2-8 มิลลิเมตร
หนามพุงดอเป็นพืชแยกเพศต่างต้น ดอกมีสีเหลืองอมเขียว ออกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนง ซึ่งสามารถยาวได้ถึง 25 เซนติเมตร ดอกเพศผู้เกือบไร้ก้าน ออกหนาแน่น มีกลีบเลี้ยงรูประฆัง 4 กลีบ และกลีบดอก 4 กลีบที่ยาวกว่ากลีบเลี้ยงเล็กน้อย เกสรเพศผู้มี 4 เกสร เรียงสลับกับกลีบดอกและยื่นพ้นกลีบดอกออกไป เมื่อติดผล ผลของหนามพุงดอจะเป็นผลสด รูปทรงกลม สีขาว มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5-6 มิลลิเมตร และมีเมล็ดอยู่ภายใน 1-3 เมล็ด
สรรพคุณและประโยชน์
หนามพุงดอไม่ได้เป็นเพียงไม้พุ่มประดับ แต่ยังมีประโยชน์มากมายทั้งในด้านอาหารและสมุนไพร
- ด้านอาหาร: ยอดอ่อนของหนามพุงดอเป็นที่นิยมนำมาลวกจิ้มกับน้ำพริก หรือนำไปประกอบอาหารอื่นๆ เช่น แกงเลียง ยำ หรือผัดน้ำมันหอย ผลสุกของหนามพุงดอเองก็สามารถรับประทานได้เช่นกัน
- ด้านสมุนไพร: หนามพุงดอมีสรรพคุณทางยามาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในส่วนของรากที่เชื่อกันว่าช่วยแก้พิษฝี พิษซาง แก้ประดงผื่นคัน และมีฤทธิ์กระทุ้งพิษร้อน ถอนพิษไข้ได้ นอกจากนี้ ใบและลำต้นของหนามพุงดอยังมีกลิ่นน้ำมันเมื่อนำมาขยี้ ซึ่งเป็นผลมาจากน้ำมันมัสตาร์ด (glucosinolates) ที่มีอยู่ในใบ
หนามพุงดอจึงนับเป็นพืชป่าอีกชนิดหนึ่งที่มีคุณค่าและน่าสนใจ ด้วยความหลากหลายทั้งในด้านการนำมาบริโภคและการใช้เป็นยาสมุนไพรพื้นบ้าน.
ที่มา : สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช

