กรุงเทพฯ วันที่ 16 มิ.ย. นางสาวพวงเพ็ญ แสงเพชร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เบเยอร์ จำกัด ประกาศขยายเวลาแคมเปญ “Beger AI สแกน-ลด-ลุ้น” ถึง 30 กันยายน 2568 หลังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ตอกย้ำความสำเร็จของแคมเปญรายแรกในไทยที่นำ AI OCR มาใช้สแกนบิลแบบเรียลไทม์ สร้างปรากฏการณ์ “ลดทันที” โดยระบุว่า แคมเปญนี้ไม่ได้เป็นเพียงโปรโมชั่นลดราคา แต่คือ บทพิสูจน์ของการนำนวัตกรรมดิจิทัลเข้าสู่ตลาดวัสดุก่อสร้างอย่างแท้จริง ด้วยระบบ “Beger AI” ที่ช่วยสแกนบิลผ่าน LINE เพื่อรับส่วนลดแบบเรียลไทม์ใน 2 ขั้นตอนง่าย ๆ เพิ่มประสิทธิภาพให้ทั้งร้านค้าและลูกค้า สร้างประสบการณ์ใหม่ในการรับสิทธิพิเศษที่ทั้ง เร็ว ง่าย โปร่งใส และยืดหยุ่น ซื้อเยอะ ลดเยอะ ไม่มีขั้นต่ำ ผลักดันยอดขายสู่ร้านค้า SME เพราะลดง่าย ขายคล่อง

ผอ.ฝ่ายการตลาด กล่าวว่า การขับเคลื่อนของเบเยอร์ครั้งนี้สะท้อนผลลัพธ์เชิงบวกต่อกลุ่มธุรกิจ SME และผู้ค้าสี/วัสดุก่อสร้างในช่วงที่ตลาดผันผวน สะท้อนแนวคิดการออกแบบระบบที่ให้ พาร์ทเนอร์ทุกขนาดเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจอย่างเท่าเทียม ผ่านช่องทางออนไลน์และระบบ AI ที่จัดการโปรโมชั่นได้แบบเรียลไทม์ร้านค้ารายใหญ่และรายเล็กจึงสามารถเพิ่มยอดขายได้จริง ขณะเดียวกัน ลูกค้าก็ได้รับสิทธิประโยชน์อย่างเท่าเทียม สามารถผลักดันตลาดให้ขับเคลื่อนต่อในยุคเศรษฐกิจใหม่ ในภาวะตลาดก่อสร้างที่ต้องการแรงกระตุ้น แคมเปญนี้กลายเป็นอีกหนึ่งพลังบวกที่ส่งเสริมยอดขายให้กับ SMEs และร้านวัสดุก่อสร้างทั่วประเทศ ที่ความสามารถในการปรับตัวและใช้เทคโนโลยีเป็นปัจจัยสำคัญ

เบเยอร์เปิดกว้างให้เข้าร่วมได้ง่าย ๆ ผ่านออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นร้านใหญ่หรือร้านเล็ก ก็สามารถเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจอย่างเท่าเทียม โดย กลุ่มสินค้าที่ร่วมรายการ ได้แก่ สีทาภายนอก–ภายใน สีทาหลังคา สีทาไม้ สีทาเหล็ก และกลุ่มกันซึม โดย วิธีร่วมแคมเปญง่ายแค่ 2 ขั้นตอน 1. Add LINE: @BegerClub 2. ซื้อสินค้า แล้วถ่ายรูปบิล ส่งเข้ามาทาง LINE ก็สามารถรับส่วนลดทันทีต่อถัง โดยไม่มีการจำกัดจำนวน
ทั้งนี้ น.ส.พวงเพ็ญ กล่าวว่า เบเยอร์ขอขอบคุณลูกค้าและพันธมิตรทุกท่านที่ร่วมกันสร้างความสำเร็จในช่วงเวลานี้ พร้อมเดินหน้าสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืน และผลักดันให้ตลาดเข้าสู่ยุคนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทั้ง ผู้บริโภค ช่าง ผู้รับเหมา และร้านค้า อย่างทั่วถึง “เราเชื่อว่า การนำนวัตกรรมมาใช้ไม่เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพในการขาย แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนตลาดสู่อนาคตที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน”

