กรุงเทพฯ วันที่ 15 มิ.ย. – นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวถึงการประชุมกรรมาธิการเขตชายแดนร่วม หรือ JBC ระหว่างไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 14 ที่ผ่านมาโดยยังไม่ได้ข้อยุติ ว่า ไม่ผิดคาดที่กัมพูชาใช้สัญลักษณ์แห่งกลไกเวทีระหว่างประเทศประกาศให้โลกเห็นว่า กัมพูชาคืบหน้ากว่าไทยมากในการเตรียมการต่อสู้กรณีข้อพิพาทเขตแดนกับไทย โดยเฉพาะระหว่างกลางทางการเจรจาเรื่องเขตแดนที่กัมพูชา

“การตบหน้าไทยระหว่างการประชุม JBC กรณีข้อพิพาทเขตแดน แล้วชิงฟ้องศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) คงเป็นไปตามความคาดการณ์ที่กัมพูชาเลือกใช้วันนี้เมื่อ 63 ปีก่อน 15 มิ.ย. 68 ในการยื่น ICJ ฟ้องร้องกรณีข้อพิพาทเขตแดนใน 4 บริเวณ ปราสาทตาเหมือนธม ปราสาทตาเหมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และช่องบก เพราะวันนี้ในอดีตเคยชนะคดีใน ICJ ปราสาทเขาพระวิหารเมื่อปี 2505” นายกัณวีร์ กล่าว
สส.พรรคเป็นธรรม กล่าวว่า การเลือกวันประชุม JBC ครั้งนี้เป็นทั้งเรื่องความเชื่อ หรือ “มู“ แล้วยังเป็นเวลาที่เหมาะสมที่กัมพูชาเตรียมการที่จะให้มีการเจรจา เป็นการสอนมวยให้ไทยเห็นว่าเขาเดินนำหน้าไทยไปแล้วจริง ๆ ถึงแม้ไทยจะไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลก ตนย้ำอยู่ตลอดว่าต้องระวังทางฝั่งรัฐบาลกัมพูชาที่จะพยายามอย่างเต็มที่ในการทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องเดียวกับเขาพระวิหารซึ่งเป็นเรื่องเก่าที่สามารถนำเข้าศาลโลกได้

นายกัณวีร์ กล่าวว่า ยังดีที่วานนี้ไทยชิงแถลงที่กระทรวงการต่างประเทศไทยว่าไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกอย่างเป็นทางการ แต่คนไทยทั้งประเทศรอฟังว่าจะมีมาตรการอย่างไรต่อไป ต้องยอมรับว่ากัมพูชาฉลาดหลักแหลม รวมทั้ง “เจ้าเล่ห์” ในเกมการเมืองระหว่างประเทศ เห็นช่องว่างถึงเสถียรภาพการเมืองภายในของไทยที่อ่อนแอ เลยใช้จังหวะให้เป็นโอกาสอย่างแยบยล
“รอดูการตอบโต้ของไทยอย่างเป็นทางการ รวมทั้งแผนการล๊อบบี้ในเวทีโลก อยากเห็นชั้นเชิงทางการทูตเชิงรุกของไทย ไม่ต้องกั๊กแล้วครับ มีเท่าไหร่ใส่ให้หมด เวลานี้ไม่ใช่เวลามาเหนียมอายหรือเวลาที่ต้องเก็บของอีกต่อไป” นายกัณวีร์ กล่าวย้ำ