รัฐสภา, วันที่ 13 มิถุนายน – เซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขกฎหมายคุ้มครองแรงงานฉบับลาคลอด 180 วัน ที่ปัจจุบันเสร็จสิ้นการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการ รอคิวพิจารณาวาระ 2-3 ในสภาฯ ว่า นโยบายลาคลอด 180 วัน เป็นหนึ่งในนโยบายที่อดีตพรรคก้าวไกลใช้หาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2566 แม้ต่อมาเราไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่ สส.เครือข่ายผู้ใช้แรงงานได้ยื่นกฎหมายทั้งหมด 4 ฉบับเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2566 เป็นการเสนอแก้ไข พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงานจำนวน 2 ฉบับ คือฉบับทำงาน พักผ่อน ใช้ชีวิต และฉบับลาคลอด 180 วัน ที่ต่อมามีร่างของพรรคภูมิใจไทยเสนอประกบด้วยอีกฉบับ
จากนั้นวันที่ 6 มีนาคม 2567 ที่ประชุมสภาฯ มีมติรับหลักการร่างลาคลอดทั้ง 2 ฉบับโดยให้ฉบับที่เสนอโดยพรรคภูมิใจไทยเป็นร่างหลัก และให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาทั้งหมด 36 คน ทั้งนี้กฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้มีสาระสำคัญ 2 เรื่อง (1) จำนวนวันลาคลอดและเงินที่ได้รับช่วงวันที่ลาคลอด (2) กฎหมายคุ้มครองแรงงานขยายความคุ้มครองลูกจ้างไปยังราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ และหน่วยงานอื่นของรัฐ
เซีย กล่าวว่า ที่ผ่านมาที่ประชุม กมธ.วิสามัญฯ ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมายจำนวน 28 ครั้ง และวันที่ 11 มิ.ย. ในชั้น กมธ. มีมติที่เป็นสาระสำคัญดังนี้ (1) จำนวนวันลาคลอด ที่ประชุมเสียงส่วนมากมีมติ เพิ่มวันลาคลอดเป็น 120 วัน หากบุตรที่คลอดมามีสุขภาพไม่แข็งแรง แม่สามารถลาเพิ่มได้อีก 15 วัน และคู่สมรสสามารถลาเพื่อช่วยเลี้ยงดูบุตรได้ 15 วัน (2) ให้กฎหมายคุ้มครองแรงงานขยายความคุ้มครองลูกจ้างไปยังราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ และหน่วยงานอื่นของรัฐด้วย
สส.ปีกแรงงาน จากพรรคประชาชน กล่าวว่า แม้รู้สึกเสียดายที่ไม่สามารถผลักดันกฎหมายลาคลอด 180 วันตามที่ได้หาเสียงกับประชาชน แต่ก็ถือเป็นความคืบหน้าอีกก้าวหนึ่ง เป็นการปรับเพิ่มสิทธิการลาคลอดหลังจากที่ไม่มีการปรับเพิ่มมานับสิบปี ส่วนประเด็นขยายความคุ้มครองลูกจ้างไปยังราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ และหน่วยงานอื่นของรัฐนั้น ถือว่าประสบความสำเร็จตามที่เราเสนอ
การประชุมสภาผู้แทนราษฎรจะกลับมาเปิดอีกครั้งในวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 จึงขอฝากทุกท่านร่วมติดตามการประชุมเมื่อกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 2 ผลจะเป็นอย่างไร สส. ในสภาจะเห็นด้วยหรือไม่ เมื่อตนทราบว่าจะมีการบรรจุวาระการประชุมในวันใด จะแจ้งให้ทุกท่านทราบต่อไป
