“ เคยตั้งใจจะไม่เขียนถึงการแก้ปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ยะลา ปัตตานี นราธิวาสและ 4 อำเภอของสงขลา เพราะเขียนถึงหลายครั้งแต่ปัญหายังวนเวียนอยู่เหมือนเดิมและในฐานะที่พ่อแม่ญาติพี่น้องไปตั้งถิ่นฐานในพื้นที่เกือบ 30 ปี นับแต่ไฟใต้ปะทุขึ้นกว่า 20 ปี ความรู้สึกและความเชื่อที่ดับไฟใต้ไม่ได้เพราะทหารเลี้ยงไข้ ยังคงวนเวียนในความรู้สึกของคนในพื้นที่แบบไม่เสื่อมคลาย“

เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เชื่อแบบนั้นเพราะการก่อรัฐประหารของเผด็จทหารทั้งสองครั้ง อ้างเงื่อนไขเพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนใต้รวมอยู่ด้วย แถมในข่วงรัฐบาลเผด็จทหารครองเมืองงบประมาณที่ทุ่มลงไปจะมากเป็นพิเศษ อาทิ ปี 2557 ใช้งบถึง 24,152 ล้านบาท ปี 2558 ขยับเป็น 25,686 ล้านบาทและปี 2559 ขยับเป็น 30,512 ล้านบาทเป็นต้น
แต่ที่ต้องเขียนถึงอีกรอบเพราะจากที่ติดตามข่าวความขัดแย้งปัญหาแนวชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา คนในสังคมเห็นต่างกันหลายส่วน มีทั้งให้เจรจาอย่างสันติ ส่งทหารลุยก่อนแล้วค่อยเจรจา บางคนประชดให้ยกแผ่นดินให้กัมพูชาไปเลย และบางคนถึงขั้นให้ทหารก่อรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพอสำเร็จแล้วสั่งทหารบุกกัมพูชาเลย เป็นความเห็นที่โพสต์ผ่านสื่อโซเซียลอย่างกว้างขวาง
ขณะเดียวกันมีพวกหิวแสง เซเลบ และพวกนักการเมือง ต่างโพสต์ในลักษณะให้ลุยแล้วค่อยเจรจา บางคนถึงขั้นประกาศอาสาไปรบ บางคนยกบางท่อนของเพลงชาติมาโพสต์ว่าไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด
จากความเห็นลักษณะดังกล่าวพออนุมานได้ว่าพร้อมที่จะให้ทำสงคราม ขณะที่ชาวบ้านอยู่ตามแนวชายแดนต่างซ้อมอพยพหนีภัยสงคราม มาพร้อมกับคำวิงวอนว่าขอให้สงครามเป็นหนทางสุดท้าย เชื่อว่าหลายคนอดตั้งคำถามถึงพวกเซเลบและนักการเมืองเหล่านั้นว่าถ้าเกิดสงครามจริงพร้อมที่จะไปสู้หรือไม่
ถ้าพร้อมต้องแสดงจุดยืนให้ชัดเจนด้วยการประกาศขายบ้านหรือที่อยู่ในอาศัยที่ซื้อไว้ในต่างประเทศให้หมดแล้วนำหลักฐานมาแสดงผ่านสื่อให้คนไทยได้ทราบเพื่อยืนยันว่าพร้อมที่จะสู้เพื่อผืนแผ่นดินไทย แต่ถ้าไม่กล้าอย่าโพสต์เพื่อปลุกระดมเลย ถ้าสงครามเกิดมีแต่คนไทยส่วนใหญ่ของประเทศที่แทบจะไม่เคยโพสต์เพื่อปลุกระดมเลย คือผู้ที่ต่อสู้เพื่อแผ่นดินเมื่อถูกศัตรูรุกราน
การโพสต์ของพวกเซเลบ และพวกหิวแสงในทำนองเชียร์ทหารว่าคือผู้ที่ช่วยชาติและประชาชนอย่างแท้จริง บางคนโพสต์ให้ยึดอำนาจ เพราะเชื่อมั่นว่าทหารไม่แสวงหาผลประโยชน์
“จอมมารน้อย”ในฐานะที่เป็นคนในพื้นที่ปลายด้ามขวานอ่านข้อความดังกล่าวแล้วรู้สึกน้อยใจและเชื่อว่าคนในพื้นที่ชายแดนใต้ส่วนใหญ่คงมีความรู้สึกน้อยใจเช่นเดียวกันว่า ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ปลายด้ามขวานมีมากว่า 20 ปี ทำไมไม่มีใครโพสต์เรียกร้องให้ทหารมีอำนาจเต็มในการคุมพื้นที่แก้ปัญหาอย่างจริงจังบ้าง ทั้งที่ในรอบกว่า 20 ปี ต้องใช้งบประมาณไปแล้วกว่าห้าแสนล้าน หลายพื้นที่ไทยพุทธถูกพวกโจรใต้กดดันให้ทิ้งถิ่น บางคนแทบจะไม่ได้ทรัพย์สินกลับมาเลย
ในจังหวะที่พวกโลกสวยเรียกร้องทหาร กลับมีข้อมูลที่ส่อไปในเชิงไม่อยากให้พื้นที่ปลายด้ามขวานสงบและส่อไปในทางที่หาผลประโยชน์ผ่านกลุ่มไลน์ ผ่านเฟสบุ๊กหรือสื่อโซเชียลอื่นๆอย่างแพร่หลาย
อาทิ โพสต์อาลัย ร.ท.อภิชาติ ผาพันธุ์ ชุดปฏิบัติการพิเศษ ถูกโจรใต้ลอบวางระเบิดเสียชีวิต ในกลุ่มไลน์ของข้าราชการในพื้นที่ บางตอนระบุว่า”เสียใจต่อการจากไป ลึกๆของการเป็นทหารใน3จังหวัด มีการวิ่งเต้นไปเป็นผบ.ร้อย ผบ. ฉก.จว. ฉก 2 ตัว เพื่ออะไรทุกคนรู้กัน มันเป็นเดิมพันราคาแพง ถ้าไม่ทำอะไรเลยก็ไม่เจ็บตัว อยู่ฐาน ให้ลูกน้องทำงานอย่าไปสร้างเงื่อนไข ทุกคนที่โดนคืออะไร ฝ่ายปกครองเก่าๆเขารู้กัน พูดถึง รองสุนทรที่เสียไปเพราะใคร ตอนนี้คนที่สร้างเป็น พล.ท.แล้ว พลเรือนทำงานดีเกินหน้าตายสร้างเงื่อนไขให้ตายกับโจร
ข้อความในไลน์กลุ่มระบุอีกว่ามีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง ผบ.ในหลายๆหน่วย ทำให้กลุ่มอำนาจเก่าไม่พอใจสร้างสถานการณ์หรือการกระทำต่างๆจึงเกิดกระแสจะให้เปลี่ยนแม่ทัพ นอกจากมีการแชร์ข้อความในทำนองว่าเหตุเกิดที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งในปัตตานี ช่วงตุลาคม 2567 นำรายชื่อทหารชั้นผู้น้อยไปปฏิบัติออกสนามในพื้นที่ชายแดนใต้ เพื่อเบิกเบี้ยเลี้ยงสนามวันละ 240 บาท แต่ละครั้งส่งชื่อไปกว่า 25 ชื่อ มีแต่ชื่อไปแต่ตัวไม่ได้ไปสักคน พอเงินเข้าสั่งให้โอนผ่านไลน์กลุ่ม ให้โอนคืนบัญชีเจ้าหน้าที่ หากใครยังไม่โอนโดน พ.ท.เรียกคุยพร้อมกำชับว่า
”หากใครไม่มีเงินคืน ให้ไปกู้สวัสดิการหรือกู้ฉุกเฉินมา”
ข้อมูลที่นำเสนอนี้เท็จจริงประการใด ผู้บัญชาการทหารบก แม่ทัพภาค 4 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องตรวจสอบแล้วนำความจริงออกมาเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับทราบ แต่ไร้เสียงตอบพออนุมานได้ว่าความเชื่อของคนปลายด้ามขวานว่าทหารเลี้ยงไข้ น่าจะไม่เกินเลย
ถ้าพวกหิวแสง เซเลบ และนักการเมืองบางกลุ่ม ได้อ่านแล้วรบกวนช่วยกันโพสต์เรียกร้องให้ทหารช่วยแก้ไฟใต้ให้มอดโดยเร็วด้วยน่าจะดี และขอให้เซเลบบางคนเลิกมองทหารบางกลุ่มแบบโลกสวยได้แล้ว !!!


