”ตำรวจ-อัยการ”พึงระวัง ตั้งพวกจอมปลอมนั่งที่ปรึกษา กต.ตร.ใช้ตำแหน่งสร้างภาพ-ตบทรัพย์ เบี้ยวแชร์ทวงถามหนี้ ตอบแรงมีแต่ปืน 

1264



      ในกระบวนการยุติธรรมจะมีอยู่สองหน่วยงานที่มักจะถูกพวกมิจฉาชีพ สร้างภาพหน้าฉากดูเป็นคนดีมีจิตอาสาและมีคุณวุฒิสูงอ้างจบปริญญาโท ปริญญาเอก เข้าไปตีสนิทพร้อมขอให้ตั้งเป็นกรรมการฯหรือที่ปรึกษาฯ นั่นคือตำรวจและอัยการ

        โดยตำรวจจะเข้าไปในบทบาทของคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ(กต.ตร.) มีทั้งระดับโรงพักและกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดและนครบาล รวมถึงตำแหน่งประธานที่ปรึกษา กต.ตร.ขณะที่อัยการไม่แตกต่างกัน ในระดับจังหวัดจะตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาและประธานที่ปรึกษาอัยการจังหวัด
           หากใครได้นั่งตำแหน่งเหล่านี้จะเป็นที่เกรงอกเกรงใจของทั้งตำรวจและอัยการ และสามารถที่จะช่วยเหลือชาวบ้านได้ด้วย โดยเฉพาะเกี่ยวกับคดีความ ถ้าบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งมีจิตอาสาจริง เป็นคนดีจริงๆแบบไม่ต้องสร้างภาพ ผลดีจะตกอยู่กับหน่วยงานที่แต่งตั้งรวมถึงประชาชนจะได้รับการปฏิบัติที่ดีจากทั้งตำรวจและอัยการ

       แต่ถ้าบุคคลที่ถูกแต่งตั้งเข้าไปเป็นพวกสร้างภาพเป็นคนดี หลังฉากจอมปลอมใช้ตำแหน่งไปแสวงหาผลประโยชน์ทั้งในรูปแบบตบทรัพย์ ฉ้อโกง และบางครั้งร่วมมือกับตำรวจระดับสูงในกองบัญชาการ(บช.)และกองบังคับการ(บก.)และอัยการที่เซ็นแต่งตั้งแสวงหาผลประโยชน์ในทางมิชอบแล้วนำมาแบ่งกัน แบบไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ ซึ่งพฤติกรรมลักษณะดังกล่าวมักจะเกิดขึ้นในพื้นที่ต่างจังหวัดและปริมณฑล เคยมีตัวอย่างให้เห็นอย่างชัดเจนมาแล้วในพื้นที่ บช.ภ.1 อาทิ นนทบุรี และพระนครศรีอยุธยา เป็นต้น ตำรวจต่างทราบกันดีว่า กต.ตร.คนนี้มีพฤติกรรมทั้งตบทรัพย์ วิ่งเต้นขายตำแหน่ง ผบช.ภ.1 บางยุค ค่อนข้างไว้วางใจให้ตำแหน่งที่ว่างไปเร่เซ็งลี้ให้กับตำรวจ สนนราคาทั้งเลข 7 หลักและ 8 หลักตำรวจยินดีจ่ายจะได้ตำแหน่งดังหวัง            

          ด้วยตำแหน่งที่ทั้งตำรวจและอัยการแต่งตั้งให้บวกความเจ้าเล่ห์ บวกกับจบการศึกษาสูง ใช้ตำแหน่งไปต้มตุ๋นชาวบ้านที่ประกอบธุรกิจสุจริต ทั้งในนนทบุรีและกรุงเทพมหานคร สำหรับพฤติกรรมของสิบแปดมงกุฎในคราบ กต.ตร. เข้าตีสนิทกับนักธุรกิจวงการต่างๆผุดขอเล่นแชร์ อ้างว่าเพื่อช่วยเหลือในยามหมุนเงินไม่ทัน มีนักธุรกิจหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก

         วิธีการจะใช้วิธีตีเช็คให้กับสมาชิกวงแชร์ โดยให้คนขับรถออกหน้าเป็นนอมินี แต่สุดท้ายแชร์ล่ม สร้างความเสียหายให้กับลูกแชร์จำนวนมากเพราะแชร์มีหลายวง เท๊าแชร์คนหนึ่งให้ข้อมูลว่า ยอดค้างวงแชร์รายอาทิตย์ทุกวง 4,750,000 บาท  ยอดค้างแชร์อาทิตย์ที่ 2 ของเดือน 2,680,000 บาท ค้างตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2566 ยอดค้างแชร์รายเดือน 50,000 บาทและ 500,000 บาท ทุกวันที่ 1 ,10และ 16 ของเดือน รวมเป็นเงินเงิน 4,700,000 บาท  ยอดค้างแชร์รายสัปดาห์ มือละ 20,000 บาท รวมเป็นเงิน  760,000 บาท  มีการตัดยอดกันบาง รวมติดหนี้วงแชร์กว่า 18 ล้านบาท พอถูกทวงถาม กลับแจ้งไม่มี มีแต่ปืน  แบบนี้เข้าผูัมีอิทธิพลมั่ยเนี่ย.?

        ผู้เสียหายได้นำคดีฟ้องต่อศาลแขวงพระนครเหนือ โดยฟ้องคนขับรถเป็นจำเลยที่ 1 และคนสลักหลังเช็ค เป็นจำเลยที่ 2 ความผิดฐานฉ้อโกง ถึงเวลานัดขึ้นศาลจำเลยกลับไม่มา ศาลแขวงพระนครเหนือ ออกหมายจับ ตำรวจติดตามจับกุมได้ เมื่อมีการสู้คดีในชั้นศาลจำเลยที่ 1 มีความผิดแต่จำเลยที่ 2 ลอยนวล เพราะเป็นเพียงคนสลักหลังเช็ค

         แต่ผลประโยชน์เข้ากระเป๋าใครคงไม่ต้องคาดเดา และหลังออกหมายจับแล้วกว่าตำรวจจะตามจับกุมได้ต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง อาจจะเป็นเพราะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตำรวจระดับสูงบางคน ใน บช.ภ.1 นครบาล และบก.ภ.จว.นนทบุรี        

       เมื่อเครดิตในแวดวงสีกากีเริ่มถดถอย ได้วิ่งเต้นเข้าหา สส.และนักการเมืองในพื้นที่เพื่อแทรกตัวเข้าอยู่ในส่วนทีมงานเลขานุการอนุกรรมาธิการ จนสามารถเดินเข้ารัฐสภาได้อย่างสบายใจเฉิบ

        ในจังหวะนี้มีความพยายามสร้างภาพเป็นคนดี ช่วยเหลือชาวบ้านทั้งในรูปแบบซื้อสินค้าและเปิดเพจรับเรื่องราวร้องทุกข์จากชาวบ้านที่มีปัญหาเดือดร้อน ซึ่งเพจนี้อาจจะกลายเป็นเครื่องมือในการแสวงผลประโยชน์ในรูปแบบตบทรัพย์จากทั้งผู้ร้องเรียนและผู้ถูกร้องเรียนก็เป็นได้

         ดังนั้นเพื่อหยุดบทบาทของสิบแปดมงกุฎคนนี้ไม่ให้ใช้คราบของ กต.ตร.และที่ปรึกษาอัยการจังหวัด ไปแสวงหาประโยชน์ในทางมิชอบ ทั้งต้มตุ๋น ฉ้อโกงและตบทรัพย์ ขอวิงวอนให้ โรงพักหรือกองบังคับการและอัยการจังหวัด ที่แต่งตั้งสิบแปดมงกุฎคนนี้ โปรดพิจารณาปลดออกจากตำแหน่ง เพราะถ้าปล่อยไว้รังแต่จะสร้างความเสียหายให้กับหน่วยงาน

      เพราะขณะนี้ผู้เสียหายที่ถูกสิบแปดมงกุฎคนนี้ต้มตุ๋นได้ยื่นฟ้องต่อศาญอาญา ฐานปลอมแปลงเอกสาร ศาลแพ่งเรียกค่าเสียหายเรียบร้อยแล้ว !!! ฝากถึงหน่วยงาน ที่โอบอุ้ม ดร.ผู้ดีจอมปลอม พิจารณา เข้าข่ายเอาคนที่ผิดจาริยธรรม มาให้ชูคอเก็บเกี่ยวสร้างฐานะทางสังคม แถมประกาศว่า ตำรวจหน่วยไหนจะกล้า ดูแลหมดทุกหน่วย ยังไงประดู่แดงฝาก ท่าน ผบช.ภ.1 ระวังจะถูกนำชื่อไปกล่าวอ้างในทางมิชอบ ถ้า ผบช.ภ.1 ไม่รีบตรวจสอบ ทุกคนก็มีสิทธิ์คิดได้ว่า เขาเป็นคนสนิทมือทำงานให้จริงๆ หรือ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.ลองให้ พล.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมพิเศษตามนโยบายเร่งด่วน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศนรด.ตร.)ไปตรวจสอบดู เผลอ เข้าข่ายผู้มีอิทธิพล จะเด็ดซะ ปล่อยไว้ชาวบ้านเขาเดือดร้อน มีอย่างที่ใหน เช่น แชร์หลัก 10 ล้าน เปียเสร็จได้เงินไปปลอมเช็คเซ็นจ่าย เจตนาเบี้ยวชัดเจน ลูกผู้ชายที่ชูคออยู่ในแวดวงผู้มากบารมีในแวดวงสีกากี ซะงั้น ฮื่อ..!!! ท่าน ที่ปรึกษาฯท่าน กต.ตร. ประดู่แดงว่า คุณหน้าตัวเมียนะ หรือไม่จริง.?