IT Talk แนะนำ ChatGPT ฟีเจอร์ใหม่ เชื่อมคลาวด์ได้ สรุปประชุมได้ เหมือนมีเลขามือโปรเป็นผู้ช่วย

434

สวัสดีผู้อ่านคอลัมน์ IT Talk ทุกท่านครับ ในโลกที่เราประชุมกันวันละ 3 รอบ แชร์ไฟล์กันวันละ 30 ชุด และยังต้องเขียนรายงานอีกนับไม่ถ้วน OpenAI ตัดสินใจยกระดับ ChatGPT ให้ฉลาดขึ้นอีกขั้นด้วย ฟีเจอร์ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อ “คนทำงานจริงจัง”

เชื่อมคลาวด์ได้ลื่นเหมือนเลื่อนฟีด

การเปิดตัวครั้งนี้ ทำให้ ChatGPT สามารถเชื่อมต่อกับบริการคลาวด์ยอดนิยมอย่าง Dropbox, Box, SharePoint, OneDrive และ Google Drive ได้แล้ว! นั่นหมายความว่า ChatGPT จะสามารถค้นหาข้อมูลจากบริการเหล่านี้ของคุณเพื่อนำมาตอบคำถามได้ทันทีเลยล่ะ ตัวอย่างเช่น นักวิเคราะห์ก็สามารถใช้สไลด์นำเสนอและเอกสารต่าง ๆ ของบริษัทมาสร้างบทวิเคราะห์การลงทุนได้สบาย ๆ เลยนะ OpenAI ยังบอกอีกว่า ฟีเจอร์ใหม่นี้จะยังคงเคารพระดับการเข้าถึงข้อมูลขององค์กรคุณด้วยนะ ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยเลย

ประชุมแล้วอย่าปล่อยให้หลุดมือ

ฟีเจอร์ที่ตอนนี้เป็นเหมือนสิ่งที่ต้องมีในชุดโปรแกรม productivity ทั่วไปอย่างการอัดเสียงและถอดเทปการประชุม ก็มาอยู่ใน ChatGPT แล้ว! ฟีเจอร์นี้สามารถสร้างสรุปการประชุมพร้อม Timestamp และแนะนำการดำเนินการ (Action Items) ได้ด้วยนะ

ผู้ใช้งานยังสามารถสอบถามข้อมูลจากบันทึกการประชุมได้เหมือนกับการค้นหาข้อมูลในเอกสารและไฟล์ต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อไว้เลย ที่เด็ดกว่านั้นคือ คุณสามารถแปลงรายการสิ่งที่ต้องทำ (Action Items) ให้เป็นเอกสาร Canvas ซึ่งเป็นเครื่องมือของ OpenAI สำหรับโปรเจกต์งานเขียนและโค้ดดิ้งได้ด้วยนะ

Deep Research สำหรับคนที่คิดลึก

นอกจากนี้ OpenAI ยังแนะนำฟีเจอร์ Deep Research connectors สำหรับ HubSpot, Linear รวมถึงเครื่องมือบางตัวของ Microsoft และ Google ซึ่งอยู่ในช่วงทดลอง (Beta) นะ OpenAI บอกว่าตอนนี้ผู้ใช้งานสามารถจัดทำรายงานการค้นคว้าวิจัยที่ละเอียดได้ผ่าน Deep Research โดยใช้ข้อมูลและความรู้จากแหล่งเหล่านี้ รวมถึงข้อมูลจากเว็บด้วย OpenAI ยืนยันว่า connectors เหล่านี้พร้อมให้ผู้ใช้งานแบบเสียเงินทุกคนได้ใช้แล้ว!

ลูกค้ายังสามารถใช้ MCP (Model Context Protocol) เพื่อเชื่อมต่อกับเครื่องมืออื่น ๆ สำหรับการค้นคว้าเชิงลึกได้ด้วยนะ การรองรับ MCP จะมีให้สำหรับผู้ใช้งานแบบ Pro, Team และ Enterprise

การเพิ่มฟีเจอร์เหล่านี้เข้ามา แสดงให้เห็นชัดเจนว่า OpenAI ต้องการให้ธุรกิจต่าง ๆ ใช้ ChatGPT ในการทำงานในองค์กรมากยิ่งขึ้นไปอีก และดูเหมือนว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จสูงมากเลยล่ะ เพราะแม้ว่าจะมีสตาร์ทอัพอย่าง Notion และ Context (ที่ Lux Capital หนุนหลัง) กำลังพยายามสร้างเครื่องมือ AI สำหรับสำนักงานที่ให้ฟีเจอร์การวิจัยและวิเคราะห์คล้ายกัน แต่ OpenAI ก็มีข้อได้เปรียบของการเป็นเจ้าแรกที่เข้าสู่ตลาดนี้ไปแล้ว

ตั้งแต่เปิดตัวฟีเจอร์สำหรับธุรกิจเมื่อต้นปี OpenAI ก็เผยว่าตอนนี้มีลูกค้าองค์กร มากกว่า 3 ล้านราย แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นชัดว่า AI ไม่ได้เป็นของเล่นอีกต่อไป แต่กลายเป็น “เครื่องมือจริง” สำหรับ “งานจริง” และเช่นเคยหากมีข้อมูลดีๆ สาระดีๆแบบนี้ ทางคอลัมน์ IT Talk ก็จะนำมาฝากกันอีกแน่นอนครับ