“กิริยาที่นายกรัฐมนตรี นามว่าแพทองธาร แสดงต่อสาธารณะในวันนี้ ระหว่างที่ตอบคำถามนักข่าว ต้องบอกว่าให้ประชาชนที่ดูเป็นผู้ตัดสินด้วยตัวเอง ว่าเหมาะสมหรือไม่อย่างไรในฐานะผู้นำสูงสุด แน่นอนความเป็นมนุษย์ย่อมมีอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด แต่ในจิตสำนึกความเป็นนายกรัฐมนตรี ตำแหน่งที่ควรค่าแก่การให้เกียรติ นับหน้าถือตา ในฐานะความเป็นผู้นำ มีสิทธิ์หลีกเลี่ยงไม่ตอบ หรือมอบหมายให้รองนายกฯ หรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องตอบได้ ไม่ต้องเล่นหูเล่นตา ประชดประชัน มันไม่คุ้มเลย“
ถ้าตัวเองไม่ได้อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี การแสดงมารยาทต่อผู้อื่นเช่นนี้ ไม่มีใครว่าเลย แล้วคนที่อยู่รอบกายนายกฯ ไม่มีใครเตือนอะไรเลยหรือ หรือเลี้ยงไว้เฉพาะคนที่เลียแข้งเลียขา รอเวลาได้มีตำแหน่ง มีผลตอบแทน คนที่หวังดีต่อนายกฯคงต้องช่วยกันส่งเสียงย้ำเตือน มากกว่านี้ ทุกการแสดงออกทุกการตัดสินใจของคุณส่งผลต่อทุกคนในประเทศนี้ ไม่สะดวกตอบ ไม่พร้อมตอบ ไม่อยากตอบมีหลายวิธีตามที่กล่าวไป
ไม่ใช่ว่าเราเป็นสื่อแล้วจะเข้าข้างสื่อด้วยกัน เพราะสื่อที่มีอคติ มุ่งอยากดิสเครดิต อยากหักหน้ารัฐบาล หรือทำลายความน่าเชื่อถือมีแน่นอน แต่นายกจะชนะแน่นอน ถ้านายกฯรับมืออย่างมีวุฒิภาวะและให้เกียรติกับตำแหน่งหน้าที่ตัวเองด้วย คนที่อาสาทำงานเพื่อบ้านเมือง ต้องมีใจรับฟัง เปิดกว้างและพร้อมกับทุกสถานการณ์ในยามประเทศมีวิกฤติ ไม่ว่านายกฯจะชื่อ ประยุทธ์ ประวิตร อภิสิทธิ์ เศรษฐา ทักษิณ หรือบุตรสาวถ้ามาแสดงกิริยาแบบนี้ก็จะพูดแบบเดิมทุกครั้งไป เพราะในตอนนี้ประเทศต้องผจญกับเหตุรุนแรงความตรึงเครียดของสถานการณ์ระหว่างกัมพูชาและไทยเรา มีการขู่จะขึ้นศาลโลก มีการรุกล้ำ มีความคิดจะปิดชายแดน เข้าใจว่าสถานการณ์นี้ร้อนแรงมาก
ดังนั้น รัฐบาลต้องทำการบ้าน เตรียมข้อมูลแก้ไขสถานการณ์อย่างมืออาชีพ และมีแผนรับมือ ขั้น 1,2,3,4 แพลนบีแพลนเอ ในการเตรียมพร้อมหากเกิดเหตุใด ๆ กลายเป็นว่าวันนี้รัฐบาลทำดีให้ตายยังไง กลับตายเพราะท่าทีผู้นำ และบรรดาลูกกระจ๊อกรอบกายที่ไม่ได้หวังดีใดๆ ต่อนายกฯ กลายเป็นคนนอกรัฐบาลให้คำแนะนำต่อวุฒิภาวะผู้นำอย่างเป็นมิตร และตรงไปตรงมามากกว่า ต้องพึงระลึกว่า นักข่าว มาทำงาน มาทำหน้าที่ ถามในสิ่งที่สงสัย พร้อมนำข้อมูลที่ได้ไปเสนอต่อ แล้วถ้าสื่อบิดเบือนเจตนาเลวร้าย ไม่ต้องห่วงครับประชาชนฉลาดและรู้เท่าทัน เขาทานข้าวไม่ได้ทานหญ้า
อย่าให้ปัญหานี้ คนนำไปเหมารวมว่านอกจากขาดวุฒิภาวะแล้ว ยังขาดทั้งความรู้ความสามารถ ขนาดว่าเป็นนายกฯมาพักใหญ่ แต่ไม่ได้พัฒนาทักษะอะไรเพิ่มขึ้นเลย ทั้งความรู้ ความฉลาดทางอารมณ์ เหตุและผลอย่างผู้มีปัญญา
ต้องไม่ลืมว่าวิกฤตชายแดนครั้งนี้ มีผู้เรียกร้องทหารกล้า มีคนที่มีความชาตินิยมจ๋า มีการปลุกปั่น ทหารกับรัฐบาล มีความยุยง มีการให้ทั้งข้อมูลจริงข้อมูลเท็จเต็มไปหมด รัฐบาลที่ติดลบเรื่องการสื่อสารอยู่แล้ว เจอกรณีท่าทีต่อสื่อของนายกฯแบบนี้ไปอีกมีแต่พัง พัง และพัง
เห็นแบบนี้แล้วยิ่งสงสารคนทำงานความมั่นคง-ชายแดน เพราะกระบวนการแก้ปัญหาต้องอาศัยทั้งประสบการณ์ผู้นำที่กล้าคิดกล้าตัดสินใจ มีข้อมูลความเก๋าในการเจรจาอย่าง “รอบคอบ” และดำเนินการทุกอย่างด้วย “ความอดทน-อดกลั้น” เพื่อไม่ให้ปัญหาขยายตัว ประคองความสัมพันธ์ของความเป็นเพื่อนบ้านต่อกันให้มั่นคง และต้องระวังไม่ให้ประเด็นชายแดนถูกใช้ เป็น“เครื่องมือทางการเมืองมาทำลายรัฐบาลเสียเอง แล้วไม่อย่างนั้นมันจะถูกเพิ่มความน่ากังวลของสถานการณ์ให้ลุกลามกลายเป็นขับไล่รัฐบาลในที่สุด!!
ดังนั้นควรหยุดหรือลด หรือเพิ่มอุณหภูมินี้ มีนายกฯเป็นตัวแปรและตัวเร่งที่สำคัญมาก!!!
