”วราวุธ“ ประณาม มิจฉาชีพในคราบ จนท.เทศบาล พิจิตร ปลอมบัตรคนกลุ่มเปราะบาง-กดเงิน สูญ 2 ล้าน วอน สังคมช่วยสอดส่อง อย่าซ้ำเติม

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กล่าวถึงกรณีตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) จับกุมเจ้าหน้าที่เทศบาล 3 ราย ในจังหวัดพิจิตร เนื่องจากร่วมกันทำเอกสารปลอมจากบัตรประจำตัวประชาชนของกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้มีรายได้น้อย แล้วปลอมแปลงเอกสารเพื่อออกหนังสือรับรองเงินเดือนอ้างเป็น เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ ประกอบการขออนุมัติบัตรสินเชื่อเงินสด เพื่อกดเงินสดออกมาใช้จ่ายส่วนตัว พบความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท นั้น ในฐานะที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มีหน้าที่ให้การช่วยเหลือดูแลพี่น้องกลุ่มเปราะบาง ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่จะตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ ขอประณามการกระทำดังกล่าว ผู้ก่อเหตุขาดมนุษยธรรมเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งเป็นการกระทำความผิดฐานปลอมเอกสาร ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษสูงสุดทั้งจำทั้งปรับ
เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำ ขอให้คนในครอบครัวของพี่น้องกลุ่มเปราะบาง พ่อแม่ ญาติพี่น้อง ช่วยกันเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ตรวจสอบบุคคลหรือหน่วยงานที่มาขอเอกสารประจำตัว อาทิ บัตรประจำตัวประชาชน บัตรคนพิการ เพื่อนำไปประกอบการทำธุรกรรม สัญญากู้กับสถาบันการเงิน รวมถึงการมอบให้ผู้อื่นไปทำธุรกรรมแทน การเซ็นรับรอบเอกสารทุกประเภท พร้อมขอให้สังคมช่วย สอดส่องเป็นหูเป็นตา ไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำเติมกับคนกลุ่มเปราะบาง ทั้งนี้ หากพี่น้องกลุ่มเปราะบางที่มีข้อสงสัย ได้รับความเสียหาย ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน ขอให้โทรแจ้ง ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) ผ่านสายด่วน พม. โทร. 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง
“วราวุธ” เผย พม. จับมือ เครือข่าย เป็นหุ้นส่วนในการพัฒนาสังคม หนุน ให้ความช่วยเหลือด้านการศึกษาแก่เด็กเปราะบาง

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า กระทรวง พม. กำหนดจัดพิธีเปิดมหกรรมจังหวัดน่าอยู่สำหรับเด็ก ประจำปี 2568 “เปิดเทอมใหม่ ส่งน้องไปเรียน ปีที่ 4 : สุพรรณบุรี Zero Dropout” ในวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ที่โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 1 อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งมีพิธีมอบทุนและอุปกรณ์การศึกษาสำหรับเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษา แต่มีชื่อในระบบการศึกษาภาคบังคับ และเด็กเปราะบาง , พิธีประกาศเจตนารมณ์ “สุพรรณบุรี Zero Dropout” โดย คณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลายเป็นศูนย์ (Thailand Zero Dropout) จังหวัดสุพรรณบุรี , เวทีเสวนา “From Home to School” โดยผู้ทรงคุณวุฒิ จากเครือข่ายด้านเด็ก อาทิ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) , มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก , คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) และองค์กรภาคเอกชน , การมอบเกียรติบัตรสำหรับบุคคลและองค์กรที่สนับสนุนมหกรรมฯ และบูธนิทรรศการขององค์กรหน่วยงานเครือข่ายด้านเด็กและเยาวชนจากทุกภาคส่วน โดยแบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 Edu Kids การศึกษาสำหรับเด็ก , โซนที่ 2 Safe Zone for Every Child พื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กทุกคน , โซนที่ 3 Happy Health สุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว และ โซนที่ 4 Career Roots ตลาดนัดอาชีพ
สำหรับสถานการณ์เด็กจังหวัดสุพรรณบุรี ปี 2568 พบว่าเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาที่อยู่ในช่วงอายุ 3-18 ปี มีจำนวน 9,086 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 24 ม.ค. 68) ซึ่งกระทรวง พม. ได้ขับเคลื่อนงานด้านเด็กและเยาวชน ตามนโยบาย 5×5 ฝ่าวิกฤตประชากร เพื่อเพิ่มคุณภาพและผลิตภาพของเด็กและเยาวชน ด้วยการส่งเสริมสถาบันครอบครัวและสถาบันการศึกษา , นโยบายรัฐบาล “Thailand Zero Dropout หรือ เด็กทุกคนต้องได้เรียน” , และโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด โดยติดตามเด็กเมื่ออายุครบ 6 ปี รวมถึงการดำเนินงานของคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลายเป็นศูนย์จังหวัดสุพรรณบุรี และคณะอนุกรรมการฯ ระดับอำเภอ ในการแก้ปัญหาเด็กที่ไม่มีชื่อในระบบการศึกษา เพื่อร่วมกันสร้างเด็กและเยาวชน เป็นพลเมืองคุณภาพ
กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวง พม. ตั้งเป้าหมายทั่วประเทศในการขับเคลื่อนโครงการนี้ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กันยายน 2568 เพื่อให้การสนับสนุนเด็กที่เป็นกลุ่มเปราะบางได้เข้าถึงโอกาสทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง จากการส่งเสริมให้ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานภาครัฐ ธุรกิจเอกชน ประชาชน และเครือข่ายจิตอาสาในระดับพื้นที่ เข้ามาเป็นหุ้นส่วนในการพัฒนาสังคม ด้วยการให้ความช่วยเหลือด้านการศึกษาแก่เด็กเปราะบางเป็นพลเมืองคุณภาพ ตลอดจนสนับสนุนทรัพยากรและความรู้ให้กับครอบครัวในการเลี้ยงดูเด็กเชิงบวก อีกทั้งส่งเสริมให้โรงเรียนเป็นที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก หรือ โรงเรียนคุ้มครองเด็ก
อย่างไรก็ตามในปีการศึกษา 2567 ทางกระทรวงศึกษาธิการมีข้อมูลเด็กที่ไม่มีชื่อในระบบการศึกษาประมาณ 9.8 แสนคน ซึ่งเป็นเด็กในช่วงปฐมวัยก่อนการศึกษาภาคบังคับ ประมาณ 2.8 แสนคน เด็กในช่วงวัยระหว่างการศึกษาภาคบังคับ ประมาณ 3.9 แสนคน และเด็กในช่วงวัยหลังการศึกษาภาคบังคับ ประมาณ 3.1 แสนคน อีกทั้งยังพบว่า เด็กที่ศึกษาในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 ส่วนหนึ่งไม่ได้เลือกศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) เนื่องจากสภาพปัญหาเศรษฐกิจ ครอบครัวมีภาระค่าใช้จ่ายสูง และค่าใช้จ่ายทางการศึกษาที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ ค่าชุดนักเรียน รองเท้านักเรียน และอุปกรณ์ทางการศึกษาอื่น ๆ ทำให้บางครอบครัวต้องตัดสินใจให้เด็กออกจากการศึกษา เพื่อมาช่วยทำงานหารายได้ให้ครอบครัว

