ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ วันที่ 2 มิถุนายน – พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เดินทางมาติดตามผลการดำเนินงาน และรับฟังการบรรยายสรุปจาก นางสาวสุปราณี พันธะทัน ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านนิติวิทยาศาสตร์, นางสาวธนสิริ ยกเชื้อ นักนิติวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ ในหัวข้อ การตรวจสารเสพติดในน้ำเสีย Wastewater Analysis ซึ่งเป็นการตรวจหาสารตั้งต้นยาเสพติด ในการเฝ้าระวังแหล่งผลิตยาเสพติด และเตรียมยกระดับ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ให้เป็นศูนย์กลางในการอบรมความรู้ด้านการตรวจสารเสพติดในน้ำเสีย ให้แก่ประเทศในแถบลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อสร้างเป็นเครือข่ายในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของยาเสพติดในภูมิภาคนี้ อย่างเป็นระบบด้วย โดยมี นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ รองเลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.), นายแพทย์วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์, นายแพทย์วรวีร์ ไวยวุฒิ รองผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์, ทันตแพทย์หญิงจุฑารัตน์ จินตกานนท์ รองผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าร่วมรับฟัง

พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดคือปัญหาใหญ่ของประเทศ รัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาแบบครบวงจร โดยใช้หลักนิติธรรม ไม่อคติ ด้วยการนำวิทยาศาสตร์มาเป็นเครื่องมือ ซึ่งรัฐบาลไทยได้ร่วมกับรัฐบาลนานาชาติ ร่วมพัฒนาแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยใช้การตรวจยาเสพติดในน้ำ ซึ่งเราได้ไปทดลองใช้การตรวจที่ชายแดนแม่น้ำเมย ที่เป็นแม่น้ำเขตแดนระหว่างไทยกับประเทศเมียนมาร์ ซึ่งได้มีการตรวจ 3-4 จุด ก่อนที่น้ำจะไหลลงมาในแหล่งน้ำ ซึ่งผลการตรวจจะช่วยให้เราใช้ในการแก้ปัญหายาเสพติด
“โดยเฉพาะสายน้ำที่ลงมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นพื้นที่ของชนคนกลุ่มน้อย ก็พบว่ามียาเสพติดชนิดหนึ่ง ซึ่งจะทำให้เราได้ไปพัฒนาเรื่องความน่าเชื่อถือทางวิทยาศาสตร์ด้วย เพราะสิ่งที่พบนั้นมีปริมาณของเคมี ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภทที่ 2 โดยเป็นยาของกลุ่มที่ผู้มีฐานะการเงินสูงหามาเสพมาใช้ ซึ่งจะพบในน้ำจากแม่น้ำเมยในบางจุดของพื้นที่” รมว.ยุติธรรม กล่าว

พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จะแก้ปัญหายาเสพติดด้วยวิทยาศาสตร์ โดยร่วมมือกับหลายหน่วยงาน ทั้ง ป.ป.ส. ทหาร และตำรวจ เป็นต้น ซึ่งห้องแล็บของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ถือว่าเป็นห้องแล็บตรวจกาสารเสพติดที่สมัยทันสมัยที่สุดหนึ่งในอาเซียน และเครื่องมือบางอย่างก็อยู่ในระดับสากล
ทั้งนี้ รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงปัญหากัญชาและใบกระท่อม ว่า ”รัฐบาลกำลังเอ็กซเรย์ในพื้นที่ที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เราต้องจัดระเบียบกระท่อมในภาคใต้ ซึ่งได้มีการประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลกันหลายหน่วยงาน และได้เริ่มดำเนินการอย่างเข้มข้น และอยากให้เป็นการแก้ปัญหาสารเสพติดที่ต้องแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด รวมทั้งการสกัดกั้นตามชายแดนต่าง ๆ ทั้งการร่วมมือกับประเทศในกลุ่มอาเซียน ถือเป็นการยกระดับการแก้ปัญหายาเสพติดในระดับภูมิภาคด้วย“

