ที่จังหวัดนครสวรรค์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ที่ผ่านมา มีกำหนดการจัดเวทีประชุมรับฟังความเห็นและการมีส่วนร่วมของประชาชนครั้งที่ 2 ของโครงการทำเหมืองหินอุตสาหกรรม จัดโดยบริษัทที่ปรึกษาสิ่งแวดล้อมแห่งหนึ่ง ณ ศาลาประชาคม หมู่ที่ 10 ตำบลเขากะลา อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ โดยชาวบ้านกลุ่มคนรักษ์เขากะลาและเครือข่ายชุมชนปกป้องทรัพยากรนครสวรรค์ รวมตัวเคลื่อนไหวคัดค้าน เนื่องจากเห็นว่า เขากะลาเป็นแหล่งน้ำซับน้ำซึม เป็นแหล่งอาหารและสมุนไพรพื้นบ้าน และเป็นแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศให้ชาวบ้านกับป่าได้พึ่งพาอาศัยกันอย่างสมดุล หากปล่อยให้ประทานบัตรเหมืองแร่หินปูนได้รับอนุญาต จะก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศทำลายระบบทางเดินหายใจ ความเสี่ยงอุบัติเหตุในเขตชุมชนสูงขึ้นจากการขนส่งแร่ และมลพิษทางเสียงจากการระเบิดและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการทำเหมือง ส่งผลกระทบต่อการทำเกษตรกรรม รวมถึงชุมชนเขากะลาที่เป็นแหล่งน้ำสัมพันธ์กับบึงบอระเพ็ดในฤดูฝนก็อาจจะปนเปื้อนสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
อย่างไรก็ตาม เมื่อกลุ่มชาวบ้านผู้คัดค้านประมาณ 200 คน เคลื่อนขบวนไปถึงสถานที่จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นฯ เวลา 08.20 น. ซึ่งถึงก่อนเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมประชุม (เวลาตามกำหนดการ 09.00-12.00 น.) แต่กลับพบว่า มีลักษณะการประชุมเกิดขึ้นโดยตั้งใจจัดบรรยากาศภายในที่ประชุมให้พร้อมสำหรับการบันทึกภาพเพื่อใช้ประกอบรายงาน EIA ซึ่งเป็นพฤติกรรมน่าสงสัย ชาวบ้านผู้คัดค้านจึงเคลื่อนขบวนเข้าไปในเวทีประชุมและตั้งคำถามถึงการดำเนินการตามกำหนดการ/รายละเอียดกำหนดการ กับผู้จัดประชุม โดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทที่ปรึกษา และเจ้าหน้าที่ของบริษัทเจ้าของโครงการเหมืองได้พยายามชี้แจงแต่ไม่เป็นไปตามแนวทางการมีส่วนร่วมตามกฎหมาย
ขณะเดียวกัน นางสุคนธ์ทิพย์ สินวิวัฒนากูล อุตสาหกรรมจังหวัดนครสวรรค์และนายธีรเมธ เทพวิชัยศิลปะกุล นายอำเภอพยุหะคีรี เดินทางมาถึงสถานที่จัดประชุมฯ กลุ่มชาวบ้านผู้คัดค้านจึงตั้งคำถามถึงการดำเนินการตามกำหนดการ/รายละเอียดกำหนดการ กับผู้จัดประชุมและเจ้าหน้าที่ของโครงการเหมืองอีกครั้ง ผลปรากฏว่าต่อหน้านายอำเภอพยุหะคีรีและอุตสาหกรรมจังหวัดนครสวรรค์ ฝ่ายผู้จัดเวทีประชุมฯ ไม่สามารถตอบคำถามเดิมได้ กลุ่มชาวบ้านผู้คัดค้านจึงได้ขอมติในที่ประชุม เรื่องยุติกระบวนการการขอประทานบัตรและไม่ต้องการให้มีเหมืองแร่/โรงโม่ เกิดขึ้นอีก
โดยชาวบ้านผู้คัดค้านให้ความเห็นในการขอมติว่า “ในพื้นที่เขากะลามีเหมืองแร่หินเปิดดำเนินการอยู่ 4 เหมือง ซึ่งอายุประทานบัตรของทั้งสี่เหมืองจะหมดลงในทศวรรษ 2590 สถานการณ์เหมืองแร่ในพื้นที่ตอนนี้เกินศักยภาพของชุมชนที่จะรับผลกระทบได้” แต่ถูกฝ่ายผู้จัดเวทีประชุมฯ ปฏิเสธการขอมติดังกล่าว กลุ่มชาวบ้านผู้คัดค้านจึงเข้ากระชับพื้นที่เวทีประชุมโดยให้เหตุผลการออกมาปกป้องทรัพยากรในครั้งนี้ว่าต้องการยืนยันในสิทธิตาม มาตร 43 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560
พร้อมกันนั้น ทางกลุ่มคนรักษ์เขากะลาและเครือข่ายชุมชนปกป้องทรัพยากรนครสวรรค์ ได้ยื่นหนังสือคัดค้านการขอประทานบัตรของบริษัทดังกล่าว ต่อ สภาทนายความฯ และผู้ช่วย สส. เขต 1 จังหวัดนครสวรรค์ พรรคประชาชน และร่วมประกอบพิธีกรรม “เผาพริกเผาเกลือ” สาปแช่งกลุ่มคนที่คิดจะระเบิดเขาเพื่อทำเหมือง
“การทำเหมืองแร่คือการทำลายสิ่งแวดล้อม กว่า 26 ปีผ่านมาที่ชุมชนเขากะลาต้องอยู่ร่วมกับเหมืองแร่หินปูน ชาวบ้านไม่เคยได้สัมผัสถึงสิทธิการอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี การทำเหมืองไม่ใช่การพัฒนา เป็นการทำลายสิทธิมนุษยชนเพราะละเมิดคุณภาพชีวิต พรากโอกาสในการหายใจของชาวบ้าน เป็นการทำลายทรัพยากรส่วนรวม โดยที่กลุ่มคนบางกลุ่มได้รับผลประโยชน์” เป็นเหตุผลหนึ่งที่กล่าวกันในหมู่ประชาชนที่มาร่วมคัดค้าน ทั้งนี้กลุ่มคนรักษ์เขากะลาและเครือข่ายชุมชนปกป้องทรัพยากรนครสวรรค์ ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะที่ผ่านมามีความพยายามจัดเวทีประชุมรับฟังความเห็นฯ หลายครั้ง ซึ่งพบความไม่ชอบมาพากลทุกครั้ง
