โรงแรมปาร์ควิว จังหวัดยะลา – วันที่ 17 พฤษภาคม พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ ปาฐกถาพิเศษ “การสร้างความโปร่งใสในระบบการเงินและการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้บริโภค สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้อย่างมั่นคงและเป็นธรรม” ในการสัมมนาการคุ้มครองผู้บริโภค สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ของ คณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร โดยมี สส.จากพรรคประชาชาติ ได้แก่ นายอับดุลอายี สาแม็ง รองหัวหน้าพรรค และ สส.เขต 3 ยะลา ในฐานะ รองประธานกมธ.คุ้มครองผู้บริโภค, นายสุไลมาน บือแนปีแน สส. เขต 1 ยะลา, ผศ.ดร.วรวิทย์ บารู สส.เขต 1 ปัตตานี, นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ สส. เขต 3 ปัตตานี และ นายสาเหะมูหามัด อัลอิดรุส สส. เขต 5 จังหวัดปัตตานี พร้อมผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ สภาหอการค้า จชต. สภาอุตสาหกรรม จชต. ภาควิชาการ สื่อมวลชน และผู้ที่สนใจเข้าร่วมประชุม
พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า วันนี้มาในฐานะรัฐบาล มารับฟังข้อเสนอของภาคส่วนต่าง ๆ และในฐานะตัวแทนของประชาชน ก็อยากให้ทุกคนช่วยกันคิดและอยากจะมาผลักดันให้ และจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจการและการลงทุนของผู้ประกอบการในพื้นที่ และเพื่อให้ผู้ประกอบการยังคงสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง รัฐบาลที่นำโดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัติการปรับปรุงเงื่อนไขและต่ออายุโครงการซอฟท์โลนภาคใต้ ซึ่งโครงการปัจจุบันจะสิ้นสุดลงในเดือนมิถุนายนนี้ ให้ขยายออกไป โดยได้เตรียมวงเงินไว้ทั้งสิ้น 15,000 ล้านบาท เพื่อปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน หรือซอฟท์โลน ให้กับสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งประกอบด้วยทั้งธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ซึ่งสถาบันการเงินที่ได้รับวงเงินซอฟท์โลน จะนำไปปล่อยสินเชื่อต่อให้กับผู้ประกอบการที่อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี และจังหวัดนราธิวาส รวมถึงพื้นที่ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา ได้แก่ อำเภอเทพา อำเภอจะนะ อำเภอนาทวี และอำเภอสะบ้าย้อย เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่โดยตรง

สำหรับโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ รัฐบาลได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และเพื่อลดข้อจำกัดในทางปฏิบัติบางประการ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของโครงการในการช่วยฟื้นฟูกิจการ และลดภาระหนี้สินของประชาชน และเพื่อให้โครงการมีประสิทธิผลสูงสุด และคุ้มครองผลประโยชน์ของประชาชนผู้เป็นลูกหนี้ ได้เสนอให้พิจารณาประกอบการตัดสินใจในระดับนโยบาย อาทิ ให้ผู้ประกอบการสามารถใช้ Soft Loan เพื่อชำระหนี้เดิมได้ โดยฝ่ายเจ้าหนี้จะต้องปรับลดภาระของลูกหนี้ควบคู่กัน ทั้งการปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้เดิมลง หรือการขยายระยะเวลาการชำระหนี้เดิมให้เหมาะสมกับศักยภาพของลูกหนี้ รวมถึงการส่งเสริมการ “ปรับโครงสร้างหนี้” อย่างเป็นระบบ โดยอาศัย Soft Lioan เป็นกลไกในการเปลี่ยนผ่าน นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอแนะให้สถาบันการเงินหรือเจ้าหนี้ที่เข้าร่วมโครงการ ต้องปฏิบัติตามแนวทาง “การตัดหนี้แนวขวาง” ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อให้การชำระหนี้ของลูกหนี้สามารถลดเงินต้นได้จริง และไม่เกิดกรณีที่ประชาชนชำระหนี้เป็นเวลานานโดยหนี้ไม่ลด
ทั้งนี้คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้ Soft Loan ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก สามารถลดภาระดอกเบี้ยสะสมและภาวะหนี้เรื้อรังของลูกหนี้ เสริมสร้างความเป็นธรรมในระบบสินเชื่อ และต่อมาตรการภาครัฐ

ขณะที่นายสมพงศ์ สิมาพัฒนพงศ์ ที่ปรึกษาสภาอุตสาหกรรมจังหวัดยะลา ในฐานะผู้แทนภาคธุรกิจในจังหวัดชายแดนใต้ นำคณะฯ เข้ามอบดอกไม้ให้กำลังใจ รมว.ยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ และอวยพรให้ชนะอุปสรรคทั้งปวงเพื่อเดินหน้าช่วยเหลือประชาชนต่อไป