สื่อมวลชนไทยเยี่ยมชมโรงงานน้ำตาลมิตรผล “ฉงจั่ว” ชื่นชมความร่วมมือไทย-จีนกว่า 30 ปี สร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นและอุตสาหกรรมยั่งยืน
เมืองฉงจั่ว, กว่างซี — วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 เวลา 16.00 น. คณะผู้เข้าอบรมโครงการพัฒนาทักษะผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนไทย (สบทจ.1) นำโดย ผศ.ดร.สืบพงศ์ ปราบใหญ่ เดินทางเยี่ยมชมและศึกษาดูงานที่โรงงาน Guangxi Chongzuo East Asia Sugar Co., Ltd. หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โรงงานน้ำตาลมิตรผล – ฉงจั่ว” เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อศึกษาแนวทางการบริหารจัดการอุตสาหกรรมน้ำตาลจากความร่วมมือระหว่างไทยและจีน
นายพงศกร วงศ์วุฒิไกรกุล ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายจัดซื้อ กลุ่มบริษัทน้ำตาลมิตรผล ให้การต้อนรับคณะ และบรรยายถึงเส้นทางความร่วมมือระหว่าง กลุ่มมิตรผล กับ Guangxi Nanning East Asia Sugar Group (EAS Group) ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 1993 ภายหลังการปฏิรูปเศรษฐกิจของจีนโดยประธานาธิบดี เติ้ง เสี่ยวผิง
ในช่วงเริ่มต้น มิตรผลได้เข้ามาร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำตาลของจีน ซึ่งเดิมประสบปัญหาขาดทุน โดยนำองค์ความรู้และเทคโนโลยีจากไทยเข้าสู่จีน ทั้งในกระบวนการผลิตน้ำตาล และการใช้ชานอ้อยเพื่อผลิตพลังงานชีวมวล
ปัจจุบัน มิตรผลมีโรงงานน้ำตาลในจีนจำนวน 6 แห่ง และโรงไฟฟ้าชีวมวล 3 แห่ง และบริษัทย่อย รวม14 บริษัท รวมกำลังการผลิตน้ำตาล 9–10 ล้านตันต่อปี โดยเฉพาะโรงงานที่เมืองฉงจั่วถือเป็นแห่งที่ใหญ่ที่สุด มีกำลังการผลิตสูงถึง 6 ล้านตันต่อปี ทำให้กลุ่มมิตรผลกลายเป็นผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่อันดับ 3 ของประเทศจีน
แม้มิตรผลจะยังไม่ใช่ผู้ผลิตอันดับ 1 แต่ก็ย้ำว่าไม่ได้มุ่งเน้นการแข่งขันเชิงปริมาณ หากแต่มุ่งเน้นการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน โดยความร่วมมือกว่า 30 ปีได้สร้างผลลัพธ์สำคัญต่อชุมชนและเศรษฐกิจท้องถิ่น เช่น สนับสนุนเกษตรกรกว่า 100,000 ครัวเรือน,ปล่อยสินเชื่อรวม 6.2 พันล้านหยวน,อุดหนุนการผลิตอ้อย 660 ล้านหยวน,ชำระเงินค่าอ้อยกว่า 77.3 พันล้านหยวน
,จ่ายภาษีรวม 11.2 พันล้านหยวน,สร้างงานกว่า 6,800 ตำแหน่ง และสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนและสะพาน รวมมูลค่ากว่า 600 ล้านหยวน
ในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ กลุ่มมิตรผลได้ร่วมกับภาครัฐและสถาบันการศึกษาของจีน ก่อตั้ง สถาบันวิจัย Silk Road International Sugar Institute และ Modern Craftsmanship of Sugar Industry เพื่อถ่ายทอดความรู้สู่บุคลากรในอุตสาหกรรมน้ำตาล ตลอดจนส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวิชาการและการลงทุนระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังเน้นกลยุทธ์ ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) ด้วยการพัฒนาโรงงานอัจฉริยะ ใช้พลังงานสะอาด และแปรรูปอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อมุ่งสู่อุตสาหกรรมน้ำตาลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนในระยะยาว
ภายหลังการบรรยาย นายพงศกรได้นำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมพื้นที่โรงงาน โดยนั่งรถบัสรอบพื้นที่ พบว่าบริเวณโรงงานมีการจัดสรรโซนอย่างเป็นระบบ ไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่ผลิตน้ำตาล ยังรวมถึงโซนที่พักสำหรับพนักงาน สนามกีฬา และพื้นที่สีเขียวเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิต พร้อมกันนี้ ได้เน้นย้ำถึงมาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อมของโรงงาน ซึ่งครอบคลุมทั้งระบบบำบัดน้ำเสียและการควบคุมการปล่อยควัน โดยผ่านเกณฑ์รับรองในระดับสูง จนได้รับการยกย่องให้เป็น “โรงงานสีเขียว” แห่งหนึ่งของจีน
ทั้งนี้ คณะผู้เข้าอบรมได้สอบถามในหลายประเด็นและชื่นชมในแนวทางการพัฒนาและการดำเนินธุรกิจของกลุ่มมิตรผล ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น หากยังสะท้อนความสำเร็จของความร่วมมือระหว่างไทย-จีนที่ยั่งยืนและเป็นรูปธรรมอีกด้วย
