สื่อไทยศึกษาโมเดลโลจิสติกส์ผลไม้จีน-อาเซียน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชายแดน ณ เมืองฉงจั่ว

1341

สื่อไทยเยือน “ศูนย์การค้าผลไม้จีน-อาเซียน” ที่เมืองฉงจั่ว ศึกษาโมเดลโลจิสติกส์ผลไม้จีน-อาเซียน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชายแดน พร้อมชมศูนย์กระจายสินค้า การไลฟ์สดขายออนไลน์สร้างรายได้สูงสุด7ล้านบาทต่อครั้ง

เมืองฉงจั่ว, กว่างซีจ้วง, จีน – วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.00 น. คณะผู้เข้าอบรมโครงการพัฒนาทักษะผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนไทย (สบทจ.1) นำโดย ผศ.ดร.สืบพงศ์ ปราบใหญ่ หัวหน้าคณะฯ ได้เดินทางเยี่ยมชมและศึกษาดูงาน “ศูนย์การค้าผลไม้จีน-อาเซียน” ณ เมืองฉงจั่ว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการกระจายผลไม้ระหว่างประเทศจีนและกลุ่มประเทศอาเซียน โดยเฉพาะจากประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกหลักของผลไม้เมืองร้อนเข้าสู่ตลาดจีน

เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า ศูนย์การค้าผลไม้จีน-อาเซียน ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมผิงเสียง ใกล้ด่านมิตรภาพ(โหย่วอี้กวน) ด่านชายแดนสำคัญที่เชื่อมต่อกับประเทศเวียดนามและยังเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ เพื่อสนับสนุนระบบโลจิสติกส์เย็น การจัดเก็บ และการจำหน่ายผลไม้สดจากอาเซียนสู่ผู้บริโภคชาวจีนอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ยังเป็น 1 ใน 3 ศูนย์กระจายผลไม้และโลจิสติกส์หลักของกว่างซี ด้วยเงินลงทุนกว่า 5.45 พันล้านหยวน มีความได้เปรียบจากการมีด่านศุลกากร 3 แห่ง การคมนาคมเชื่อมโยงด้วยทางด่วนและทางหลวงระหว่างประเทศ และพื้นที่รอบศูนย์ฯ ยังประกอบด้วยโรงงานแปรรูปผลไม้และระบบโลจิสติกส์ครบวงจร

สำหรับใจกลางของศูนย์ฯ แห่งนี้ ประกอบด้วย 7 ฟังก์ชัน คือ การค้าออนไลน์,โลจิสติกส์อัจฉริยะ,ด่านศุลกากร,เขตพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และ การแปรรูปผลไม้ในพื้นที่ ปัจจุบันเริ่มเปิดใช้งานบางส่วนแล้ว และคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2025 โดยเฉพาะในส่วนของศูนย์แปรรูป คาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้

จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าในปี 2024 ที่ผ่านมา ศูนย์ฯแห่งนี้ มีการนำเข้า-ส่งออกผลไม้รวม 2,450,000 ตัน โดย ทุเรียน จากประเทศไทยยังคงครองสัดส่วนสูงสุดถึง 25% หรือประมาณ 297,000 ตัน ตอกย้ำบทบาทของไทยในฐานะผู้ส่งออกผลไม้เบอร์หนึ่งของภูมิภาค

นอกจากนี้ ชาวบ้านที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมการค้าชายแดนหรือการขนส่งสินค้า มีรายได้เสริมเฉลี่ย 4,000 – 5,000 หยวนต่อเดือน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนราว 7.4% ภาพรวมปี 2024 รายได้รวมของหมู่บ้าน 12.49 ล้านหยวน มีการแบ่งผลกำไรให้สมาชิกกว่า 1.1 ล้านหยวน ซึ่งสะท้อนผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น ในส่วนของชั้น 2 ของศูนย์ฯ ยังมีการจัดแสดงผลไม้ที่นำเข้าและส่งออกในอาเซียน และสินค้าที่จีนส่งออกไปอาเซียน เช่น กระเทียม มันฝรั่ง หอมหัวใหญ่ กะหล่ำปลี เป็นต้น ถือเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศของจีน พร้อมเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศในอาเซียนในระยะยาว โดยเฉพาะในมิติของการพัฒนา ห่วงโซ่อุปทานอาหาร ที่มีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และเชื่อมโยงตลาดโลกอย่างยั่งยืน

จากนั้น คณะสื่อมวลชนไทย ได้เดินทางเยี่ยมชม บริษัท Pingxiang Feiyue Supply Chain Management Service Co., Ltd. ซึ่งตั้งอยู่ในเขตนิคมส่งออกผิงเสียง เขตแปรรูปสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าโลจิสติกส์สำคัญในภาคใต้ของจีน

บริษัทดังกล่าวดำเนินธุรกิจด้านการขายส่งและโลจิสติกส์สินค้า โดยเน้นตลาดส่งออกไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน สินค้าหลักเน้นคุณภาพดี ราคาจับต้องได้ และได้รับความนิยมในประเทศเวียดนามและไทย โดยเฉพาะในรูปแบบ การขายผ่านระบบไลฟ์สดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

ด้าน นายกั๋ว เต๋ออี้ ผู้จัดการใหญ่ของบริษัท เปิดเผยว่า สำนักงานใหญ่ของ Pingxiang Feiyue ตั้งอยู่ในเมืองอู๋ซี มณฑลเจ้อเจียง โดยสินค้าหลักของบริษัทคือ รถไฟฟ้าสกู๊ตเตอร์ ซึ่งได้รับความนิยมสูงในตลาดเวียดนามและไทย ขณะเดียวกันสินค้าที่ขายดีที่สุดในขณะนี้คือ เครื่องนวดและพัดลม โดยล่าสุด บริษัทจำหน่ายพัดลมขนาดเล็กกระทัดรัด ผ่านการไลฟ์สดได้มากถึง 7,500 เครื่อง คิดเป็นมูลค่าประมาณ 110,000 หยวน หรือราว 570,000 บาท ขณะที่สถิติสูงสุดของการไลฟ์ขายสินค้าอยู่ที่ 60,000 ชิ้น สร้างรายได้สูงสุดกว่า 7 ล้านบาท โดยใช้เวลาไลฟ์สด1 รอบ ประมาณ 4 ชั่วโมง พร้อมย้ำว่า ความสำเร็จของบริษัทเกิดจากกลยุทธ์การตั้งราคาถูกและคุณภาพดีที่สุดในประเทศจีน เพื่อให้สินค้าหมุนเวียนได้รวดเร็วและไม่มีสต๊อกตกค้าง

ในการเยี่ยมชมครั้งนี้ ผู้จัดการใหญ่ของบริษัทฯยังมอบเครื่องนวดไฟฟ้าสินค้าขายดี เป็นของที่ระลึกให้แก่คณะผู้สื่อข่าวและทีมงานทุกคน เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพระหว่างจีน-ไทย และแสดงถึงความตั้งใจในการส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าและวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง