กองสารนิเทศ ตร.ยุค”ผู้การ วรศักดิ”พีอาร์เชิงรุก แก้เกมพวกหิวแสงไลฟ์สดด่านตำรวจ จัดทำคลิปแพร่ผลดีเรียกรถตรวจ

513

        “        ระหว่างที่ท่องโลกออนไลน์ก่อนเทศกาลสงกรานต์ เจอคลิปรณรงค์ช่วยกันลดอุบัติเหตุของหลายหน่วยงาน แต่มาเจอคลิปของกองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำเสนอเนื้อหาแปลกกว่าคลิปของหน่วยงานอื่น

              รายละเอียดของคลิปเริ่มจากชายคนหนึ่งพร้อมภรรยาขับรถมาเจอรถติด เปิดกระจกดูเจอด่านตรวจแสดงอาการดีใจคล้ายพวกหิวแสงหรือพวกนักรบด่านเถื่อน ถือโทรศัพท์ลงมาไลฟ์สดบอกว่าข้างหลังรถติดเป็นกิโลฯสาเหตุของรถติดเพราะมีด่านตรวจของตำรวจ


              ระหว่างนั้นตำรวจประจำด่านมาพบบอกว่าตำรวจกำลังปฏิบัติหน้าที่กันอยู่ คนถ่ายโต้ว่ากำลังถ่ายการทำงานของตำรวจ ผมเป็นประชาชนถ่ายไม่ได้หรือครับ ตำรวจบอกว่าประชาชนมีสิทธิ์ถ่ายการทำงานของตำรวจได้ครับ แต่ถ้าจะถ่ายต้องถ่ายติดผมด้วยนะครับ

          จากนั้นตำรวจบอกกับคนถ่ายคลิปว่าใจเย็นพร้อมชี้ไปที่เก้าอี้ยาวข้างทางมีคนนั่งอยู่พร้อมกับบอกว่าเห็นคนเหล่านั้นไหม คนถ่ายบอกว่าเป็นคนปกตินี่ครับ ตำรวจบอกว่ามองผ่านกล้องไม่เห็นอะไร ลองใช้หัวใจมองพร้อมอธิบายว่าคนแรกเมาแล้วขับวัดปริมาณแอลกอฮอล์ได้ 180 มิลิกรัมเปอร์เซ็นต์ คนที่ 2 ขับรถเร็วกว่ากฎหมายกำหนด 190 กิโลเมตร/ชั่วโมง คนที่ 3 ใช้โอกาสช่วงเทศกาลขนยาเสพติด คนที่ 4 ลักทรัพย์ในเคหสถานตำรวจ 191 แจ้งให้สกัดจับ คนถ่ายคลิปรับทราบแต่สายมองเห็นยมบาลนั่งอยู่แต่ตำรวจไม่เห็น คนถ่ายคลิปบอกจะเข้าไปขอถ่ายใกล้

      จากนั้นคลิปตัดมาที่ตำรวจสองนายบอกถึงความตั้งใจในการทำงานของตำรวจว่า แค่ปรับมุมมองลองเปิดใจแล้วจะรู้ว่าตำรวจไทยทำเพื่อประชาชน เราพร้อมปฏิบัติหน้าที่เพื่อทรัพย์สินและชีวิตของท่านให้ปลอดภัย ด้วยความห่วงใยจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)

        คลิปนี้ได้เผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ในหลายช่องทางรวมทั้งยูทูป หากใครเคยติดตามคลิปอื่นๆของตร.แล้วนำมาเปรียบเทียบกับคลิปนี้จะเห็นความแตกต่างในการครีเอท เท่าที่จำได้ไม่เคยเห็นการผลิตสื่อของกองสารนิเทศ(บก.สท.)ที่นำเสนอผลดีของการตั้งด่านตรวจของตำรวจสื่อสารให้ประชาชนทั่วไปทราบเลย ที่ผ่านมาประชาชนมักจะเข้าใจว่าตั้งด่านตรวจเพื่อหาความผิดจากผู้ขับขี่หรือตรวจสอบว่ารถเข้าข่ายผิดกฎจราจรข้อไหนบ้างแล้วออกใบสั่งให้จ่ายค่าปรับ บางด่านจะพูดโน้มน้าวว่าถ้าจ่ายสดไร้ใบเสร็จ 200 บาท ถ้ามีใบเสร็จต้องจ่าย 500-1,000 บาท


          จนกลายเป็นช่องว่างให้พวกหิวแสงไลฟ์สดตำหนิการทำงานของตำรวจประจำด่าน สร้างรายได้จากยอดวิว บางคนนำไปข่มขู่ตบทรัพย์ตำรวจอีกต่างหาก

        การผลิตคลิปที่สร้างสรรค์นี้ต้องยกเครดิตให้ พล.ต.ต.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร ผบก.สท. รับโจทย์จาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแหง่ชาติ(ผบ.ตร.)ให้ทำประชาสัมพันธ์เชิงรุก เพื่อสร้างการรับรู้และจิตสำนึกด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงไดจัดทำคลิปรณรงค์ประชาสัมพันธ์ เพื่อร่วมสร้างความตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยให้กับประชาชนในการเดินทาง

    “เพื่อสื่อสารให้เห็นถึงบทบาทของตำรวจในการดูแลความปลอดภัยของประชาชนที่ผ่านด่านตรวจและด่านสกัด มุ่งลดอุบัติเหตุทางถนนและป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะจากพฤติกรรมเสี่ยง เช่นขับขี่ขณะมึนเมา ขับเร็วเกินกฎหมายกำหนด รวมทั้งป้องกันการลักลอบขนยาเสพติดและแรงงานต่างด้าวที่มักแฝงมาในช่วงเทศกลาง”พล.ต.ต.วรศักดิ์ระบุ

      การขยับทำประสัมพันธ์เชิงรุกของพล.ต.ต.วรศักดิ์ เสมือนการช่วยฟื้นบทบาทของบก.สท.ที่อับเฉามาเกือบ10 ปี นับแต่รัฐบาลเผด็จการทหารครองอำนาจ บก.สท.ถูกผู้บริหารตร.และฝ่ายการเมืองใช้เป็นเครื่องในการบริหารงานบุคคลทั้งแบบให้คุณและให้โทษ 

      แบบให้คุณคือแต่งตั้งคนใกล้ชิดมานั่งในตำแหน่งที่สูงขึ้น เพราะคุณสมบัติยังไม่พร้อมที่จะขยับขึ้นในตำแหน่งหลัก เมื่อถึงฤดูกาลโยกย้ายจะโยกออกแล้วตั้งคนใหม่มาแทน แบบให้โทษจะย้ายตำรวจที่ไม่ใช่พวกไม่ใช่คนใกล้ชิดแต่นั่งตำแหน่งหลัก มารับตำแหน่งที่บก.สท.เพื่อเปิดทางให้ตำรวจในสังกัดได้ผงาด

      แม้เวลาจะผ่านมาไม่นานดูเหมือนว่าพล.ต.ต.วรศักดิ์ เข้าในบทบาทของบก.สท.ได้อย่างดีว่าเป็นหน่วยงานสำคัญที่ต้องทำงานด้านประชาสัมพันธ์ ผลงานภาพลักษณ์ของ ตร.ให้ประชาชนได้ทราบข้อมูล ข้อเท็จจริง ภารกิจการสื่อสารยุคนี้ บก.สท.ต้องรับทราบเหตุการณ์ต่างๆที่ประชาชนได้รับทุกข์ภัยจากกรณีต่างๆ แล้วรายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับตร.ทราบแล้วสั่งการแก้ไขสถานการณ์ให้รวดเร็ว

    “ยังต้องซัพพอร์ตข้อมูลให้ผู้บังคับบัญชาระดับตร.และทีมโฆษกตร.เพื่อใช้ชี้แจงกับประชาชนได้รับทราบผ่านสื่อมวลชนแขนงต่างๆ”พล.ต.ต.วรศักดิ์บอกและว่าได้ให้นโยบายกับผู้ใต้บังคับบัญชาไปแล้วว่าบก.สท.ในยุคตน ต้องเป็นคนทำงานเท่านั้นที่จะได้รับการเสนอชื่อพิจารณาแต่งตั้งให้เติบโตก้าวหน้าในตำแหน่งต่างๆ

     หากมองถึงความตั้งใจของพล.ต.ต.วรศักดิ์ มุ่งมั่นจะผลักดันให้บก.สท.กลับมาเป็นหน่วยหลักในการทำงานด้านประชาสัมพันธ์ หลังถูกมองข้ามมาเกือบ 10 ปี  เชื่อว่าน่าจะทำได้ไม่อยาก เพราะเพียงแค่ผลิตคลิปแรกที่ชี้ให้เห็นประโยชน์ในตั้งด่านตรวจของตำรวจ ที่กำลังแพร่หลายในสื่อออน์ไลน์และช่องยูทูป ถือว่าสอบผ่านแล้ว

      ดังนั้นนับจากนี้ต้องจับตาดูว่า พล.ต.ต.วรศักดิ์ จะโชว์บทบาทพลิกฟื้นให้บก.สท.ที่อับเฉามาเกือบ 10 ปี ได้ผงาดเป็นหน่วยหลักด้านประชาสัมพันธ์ของตร.เหมือนในอดีตที่ผ่านมาได้หรือไม่ !?!