“พิชัย” ชวนเที่ยวสงกรานต์ย้อนยุค ไทย-รามัญ ที่ตลาดโก้งโค้ง อยุธยา

165

ที่อยุธยา วันที่ 13 เมษายน นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดงาน“สงกรานต์สราญสุขย้อนยุค สานสัมพันธ์ไทย–รามัญ” ณ ตลาดโก้งโค้ง บ้านแสงโสม อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13–15 เมษายน 2568 เพื่อสืบสานประเพณีไทยในบรรยากาศตลาดย้อนยุค โดยระบุว่า รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ต้0งการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามของไทย และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และสร้างรายได้ให้กับชุมชนในพื้นที่ กระทรวงพาณิชย์ จึงได้เร่งส่งเสริมการค้าการขายภายในประเทศ พัฒนาเศรษฐกิจชุมชน และผลักดันสินค้าและบริการที่มีมูลค่าทางวัฒนธรรมให้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ (Soft Power) เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศไทยในระดับสากล พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นอย่างทั่วถึงและยั่งยืน

นายพิชัย กล่าวต่อว่า ตลาดโก้งโค้ง บ้านแสงโสม เกิดจากความตั้งใจและความมุ่งมั่นของ คุณนภาพร ทิมประทาน และคุณพัชนภา อนันตสิทธิ์ ผู้บริหารตลาด สร้างให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่เกิดจากการรวมพลังของชาวชุมชนในการรื้อฟื้นบรรยากาศการค้าขายในอดีตให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ตลอดระยะเวลากว่า 19 ปีที่ผ่านมา ที่นี่ได้กลายเป็นศูนย์กลางการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ตลอดจนการถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จึงเป็นโอกาสดีที่ตลาดจะได้เป็นจุดศูนย์รวมในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทย

โดยภายในงานมีการจัดกิจกรรมหลากหลาย อาทิ การสรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย–รามัญ และการออกร้านจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นจากชุมชนกว่า 100 ร้าน สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนไทยโบราณได้อย่างชัดเจน รวมถึงมีการจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัดเพื่อช่วยลดค่าครองชีพของประชาชน

“กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากผ่านกลไกการค้าและการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างรายได้ให้กับชุมชน และกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจอย่างเป็นธรรม ขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมเที่ยวงานได้ถึงวันที่ 15 เมษายน 2568 นี้ ” นายพิชัย กล่าว

ทั้งนี้ตลาดโก้งโค้ง เป็นตลาดต้องชมภายใต้การส่งเสริมของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ที่ได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการส่งเสริมตลาดแห่งนี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่อนุรักษ์ขนบธรรมเนียมและวิถีชีวิตชุมชนอย่างแท้จริง